วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556

ภาษาจีน..จีน chainiese


ประวัติผู้จัดทำ



          สวัสดีครับ ผมชื่อ ด.ช.ณฐพล  ธวัชชัยสกุล  ชื่อเล่นชื่อว่า ฮ่อ ตอนนี้ผมกำลังศึกษาอยู่
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ผมสร้างบล็อกนี้ขึ้นมาเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับภาษาจีน ครับ เนื่องจากในปี 2558 นี้ประเทศไทยของเราก็จะเป็นอาเซียนแล้ว ทำให้ภาษาเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของเรา เพราะจะมีคนมากมายหลายชาติหลั่งไหลเข้ามาอยู่ในประเทศของเรา และผมเห็นว่าภาษาจีนเป็นอีกภาษาหนึ่ง(นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ)ที่มีความสำคัญและมีการใช้กันอย่าแพร่หลาย ผมจึงได้สร้างบล็อกนี้ขึ้นมาครับ

  "เอาละพูดมาก็มากต่อไปมาเริ่มเรียนกันเลยดีกว่าครับ"



การศึกษาภาษาจีน
          ภาษาจีนเป็นภาษารูปภาพไม่ใช่ภาษาสะกดผสมอักษรดังเช่นภาษาไทยจึงควรศึกษาวิธีเขียนอ่านสะกดภาษจีนเอาไว้เพื่อเวลาพบอักษรตัวใดที่อ่านไม่ออก หรือไม่มั่นใจในการออกเสียง สามารถเปิดค้นหาอ่านในพจนานุกรมและใช้แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ เพื่อพิมพ์อักษรจีนแบบสะกดคำได้
                 วิธีเขียนตัวสะกด เพื่อการอ่านออกเสียงได้ถูกต้องที่นิยมใช้ในหลายระบบ  เช่น

                                         - Zhuyin fuhao ( 注音符號 : Zhùyīn fúhào)
                                         - Tongyoung Pinyin (通用拼音 : Tōngyòng pīnyīn)
                                         - Hanyu  Pinyin (漢語拼音 : Hànyǔ pīnyīn)
                                         - Four - corner (四 - 角落 : Sì - jiǎoluò)

          เราควรรู้จักพยัญชนะและสระในภาษาจีนเสียก่อนเปรียบเหมือนการเรียน ก-ฮ ในภาษาไทยนั้นเอง
ในการเริ่มต้นศึกษาควรอ่านท่องเสียงให้ได้เเม่นยำในระบบใดระบบหนึ่งก่อน เช่น

แบบจู้อิน  Zhuyin  注音
          เป็นแบบดั้งเดิมของจีนที่ใช้กันมาช้านานเป็นที่นิยมใช้ในหมู่คนจีนที่ผ่านการศึกษาในรุ่นก่อนๆในประเทศจีนไต้หวันเป็นต้น

แบบพินอิน  Pinyin 拼音
          เป็นแบบใหม่ที่ใช้กันในระบบการศึกษาของสาธารณะประชาชนจีนและจะพบเห็นได้ในเอกสารที่ตีพิมพ์ในยุคหลังๆ

          ซึ้งทั้งสองระบบนี้ยังเป็นที่นิยมใช้กันในหมู่ชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีให้พบเห็นได้โดยทั่วไปแม้นจะมีวิธีการเขียนผสมคำและเงื่อยไขลายละเอียดปีกย่อยแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่ก็สามารถสื่อสารให้คำอ่านถูกต้องชัดเจนไม่ต่างกันมากนัก  เว้นแต่ตัวผู้อ่านเองที่ติดในสำเนียงท้องถิ่นเกิดที่แตกต่างกัน     จึงทำให้สะกดได้สำเนียงที่เพี้ยนกันอยู่บ้างเล็กน้อยที่ไม่อาจถือว่าเป็นปัญหาของวิธีการสะกดในแต่ละระบบ


เรื่องราวการกำเนิดอักษรจีน

ฝูซีให้กำเนิดแผนภูมิปากว้า
          อักษรจีนปรากฏมีให้ใช้ตั้งแต่เมื่อไร จนปัจจุบันก็ยังไม่สามารถรู้แน่ชัดได้ แต่มีการเล่าขานกันว่า ฝูซีเป็นผู้กำหนดสัญลักษณ์แผนภูมิอัฏฐลักษณ์ (ปากว้า) ขึ้น ใช้แสดงบอกปรากฏการณ์ธรรมชาติ 8 ลักษณะใหญ่ เช่น ฟ้า ดิน น้ำ ไฟ เป็นต้น ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นต้นกำเนิดของอักษรจีน

ตำนานซังเจี๋ยประดิษฐ์อักษร
          นอกจากนี้ยังมีตำนานเล่าไว้ว่า ซังเจี๋ย ขุนนางฝ่ายอาลักษณ์ของพระเจ้าหวงตี้เป็นผู้ประดิษฐ์อักษรจีน กล่าวกันว่าซังเจี๋ยเฝ้าพินิจสรรพสิ่งบนท้องฟ้าและพิเคราะห์รูปลักษณ์ของขุนเขา ลุ่มน้ำ ลำธาร พิจารณารอยกีบสัตว์ ตีนนก และแมลงนานาชนิด แล้วคิดประดิษฐ์อักษรขึ้น แต่ในความเป็นจริง การก่อเกิดตัวอักษรจำเป็นต้องผ่านพัฒนาการเป็นเวลายาวนาน ซังเจี๋ยอาจจะเป็นผู้หนึ่งที่จัดการปรับปรุงอักษรที่มีอยู่แล้วก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม เราก็รู้ได้อย่างหนึ่งว่า อักษรจีนมีประวัติศาสตร์และพัฒนาการมาช้านาน

การปฏิวัตรูปแบบภาษาจีน
          จากการปฏิรูปตัวพาหะอักษรจีนย่อมเป็นที่ประจักษ์ว่าตัวพาหะอักษรจีนได้วิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องตามครรลองที่คล่องแคล่วเงื่อนไขเบื่องต้นในการชี้ขาดอัตราความเร็วในการพัฒนาของมัน คือ การเปลี่ยนแปลงทางสังคม การวิวัฒนาการทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในยุคโบราณ การพัฒนาเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ของจีนเดินทางอยู่ข้างหน้าการพัฒนาตัวพาหะอักษรจีนจึงมีอัตราความเร็วสูง     ในยุคไกล้เศรษฐกิจวัฒนธรรมจีนล้าหลัง

การปฏิวัตภาษาจีนทั้ง 3 รูปแบบ
          ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ตัวอักษรจีนที่ถือได้ว่าเป็นการปฏิวัติโดยแท้มี 3 ครั้ง 
ครั้งแรก คือ หลังจากกษัตริย์องค์แรกของราชวงศ์ฉิน สามารถรวม 6 ก๊กเป็นหนึ่งเดียวได้ดำเนินนโยบายการปฏิรูป "ให้ตำราทุกเล่มใช้ตัวอักษรเดียวกัน"  นับได้ว่าเป็นการปฏิรูปตัวอักษรจีนให้เป็นมาตราฐานครั้งแรกในประวัติศาสตร์จีน
ครั้งที่สอง คือ ตัวอักษรจีนได้เปลี่ยนรูปแบบของตัวหนังสือ
ครั้งที่สาม คือ การย่อตัวอักษรจีนให้สั้นลงและได้เขียนง่ายขึ้นนิดหน่อย

ตัวย่ออักษรจีน
          เป็นหนึ่งในสองรูปแบบอักษรจีนมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลกในปัจจุบัน อักษรจีนตัวย่อประดิษฐ์และเริ่มใช้โดยรัฐบาลของ สาธารณรัฐประชาชนจีน ใน พ.ศ.2492 เหตุที่ต้องเรียกว่าอักษรจีนตัวย่อ หรือ Simplified Chinese character ก็เพื่อให้แตกต่างจากอักษรจีนมาตรฐานอีกรูปแบบหนึ่งที่ในปัจจุบัน นั่นคือ อักษรจีนตัวเต็ม หรือ Traditional Chinese Character (อักษรจีนดั้งเดิม)  อักษรจีนตัวเต็ม ได้ใช้ใน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน และชุมชนชาวจีนโพนทะเลบางชุมชนที่เริ่มตั้งชุมชนก่อนการใช้อักษรจีนตัวย่ออย่างแพร่หลาย ส่วนอักษรจีนตัวย่อ ใช้กันใน  สาธารณรัฐประชาชนจีน  สิงคโปรค์ และชุมชน ชาวจีนโพนทะเล บางชุมชนที่เริ่มตั้งชุมชนหลังการใช้อักษรจีนตัวย่ออย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม ชาวไทยเชื้อสายจีนส่วนมากยังคงใช้ อักษรจีนตัวเต็ม เป็นหลัก แต่สำหรับการสอนภาษาจีนตามสถานศึกษาในประเทศไทยส่วนมากจะใช้อักษรจีนตัวย่อ เพื่อให้เป็นแบบแผนเดียวกันกับ สาธารณรัฐประชาชนจีน

วิธีการเขียนตัวอักษรจีน
          ผู้ที่เริ่มศึกษาภาษาจีนใหม่ ๆ อาจจะเคยได้ยินกันจนหนาหูว่า "ภาษาจีนเขียนยาก จำยาก" อยากจะขอบอกว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด และไม่จำเป็นที่จะต้องมานั่งจำลำดับขีดอะไรกันให้มากมาย เพียงแค่หมั่นฝึกเขียน และเขียนตามลำดับขีดที่อาจารย์ให้คัดส่งเป็นการบ้านเป็นประจำทุกวัน ความเคยชินจากลำดับขีดจะซึมสู่ท่านเองโดยอัตโนมัติ เพียงแต่ พึงจำไว้ว่า ครั้งแรกที่เริ่มฝึกเขียนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเขียนตามลำดับขีดให้ถูกต้อง อย่าเขียนแบบว่าขอให้ใกล้เคียงเป็นพอ เพราะหากท่านเขียนลำดับขีดผิด โครงสร้างตัวอักษรที่ผิด ๆ เหล่านั้น นอกจากจะทำให้อักษรจีนของท่านไม่สวยงามแล้ว ยังอาจทำให้ความหมายของตัวอักษรคลาดเคลื่อนได้

          ณ ที่นี้จะข้อกล่าวถึงลำดับขีดพื้นฐานโดยทั่วไปมี 7 แบบ (ซึ่งในความเป็นจริงมีมากกว่า 7 แบบ บางตำรากล่าวถึง 13 แบบ )

1. บนลงล่าง



2. ขีดขวางแล้วค่อยขีดตั้ง



3. ตรงกลางก่อนแล้วซ้ายขวา



4.ตีกรอบนอก เขียนข้างในแล้วค่อยปิด



5. ป้ายซ้ายก่อนแล้วค่อยป้ายขวา



6.、ซ้ายก่อนแล้วค่อยขวา


7、ด้านนอกก่อนค่อยด้านใน


ฮันจื้น
          ลัญลักษณ์แต่ละตัวแสดงในภาษาจีนและความหมายมีจุดกำเนิดจากรูป คน สัตว์ สิ่งของ ฯลฯ แต่เมื่อเวลาผ่านไปรูปร่างของอักษรก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างเเละไม่เหมือนกับสิ่งที่เลียนแบบอีกต่อไปสัญลักษณ์ บางตัวเกิดจากสัญลักษณ์ตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไปมารวมกัน
           ระบบอักษรจีนไม่มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนอักษร พจนานุกรมที่ใหญ่ที่สุดชื่อ Zhonghua Zihai มีอักษร 85568 ตัว แต่ส่วนใหญ่มีที่ใช้น้อยการรู้อักษรเพียง 3000 ตัวก็จะสามารถ พูดจีนอ่านภาษาจีนได้ราว 99% แต่ถ้าอ่านวรรณคดี  หนังสือโบราณต้อง 6000 ตัวนะ

อักษรจีน
          อักษรจีนเป็นอักษรระบบอักษรภาพชนิดหนึ่ง ใช้แทนความหมายของคำ นักภาษาศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า การเขียนในจีนที่เก่าสุดเริ่มเมื่อ 957 ปีก่อนพุทธศักราช ไม่มีหลักฐานแสดงความเกี่ยวข้องกับการเขียนในบริเวณอื่น ตัวอย่างการเขียนภาษาจีนที่เก่าสุดมีอายุราว 957 – 407 ปี ก่อนพุทธศักราช (ราชวงศ์ซาง)ซึ่งเป็นจารึกบนกระดูกวัวและกระดองเต่า

          พ.ศ. 2442 หวัง ยิรง (Wang Yirong) นักวิชาการจากปักกิ่ง พบสัญลักษณ์คล้ายอักษรบนกระดูกมังกรที่เขาได้รับจากเภสัชกร ในเวลานั้น กระดูกมังกรซึ่งมักเป็นซากฟอสซิลของสัตว์ ยังใช้ในการแพทย์แผนจีน กระดูกสัตว์เหล่านั้นพบมาก ในซากปรักหักพังของเมืองหลวงในสมัยราชวงศ์ซัง ทางเหนือของมณฑลเหอหนาน

พินอิน
          พินอิน หรือ ฮั่นยฺหวี่พินอิน (จีนตัวเต็ม: 漢語拼音; จีนตัวย่อ: 汉语拼音; พินอิน: Hànyǔ Pīnyīn; จู้อิน  แปลว่า การถอดเสียงภาษาจีน) คือระบบในการถ่ายถอดเสียงภาษาจีนมาตรฐาน ด้วยตัวอักษรโรมัน ความหมายของพินอินคือ "การรวมเสียงเข้าด้วยกัน" (โดยนัยก็คือ การเขียนแบบสัทศาสตร์ การสะกด การถ่ายถอดเสียง หรือการทับศัพท์)

พินอินเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2501 และเริ่มใช้กันในปี พ.ศ. 2522 โดย รัฐบาลของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยใช้แทนที่ระบบการถ่ายถอดเสียงแบบเก่า เช่น ระบบเวดและไจลส์ และระบบจู้อิน นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบระบบอื่น ๆ สำหรับนำไปใช้กับภาษาพูดของจีนในถิ่นต่าง ๆ และภาษาของชนกลุ่มน้อยที่ไม่ใช้ภาษาฮั่น ในสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย

นับแต่นั้นมา พินอินก็เป็นที่ยอมรับจากสถาบันนานาชาติหลายแห่ง รวมทั้งรัฐบาลสิงคโปร์ หอสมุดรัฐสภาอเมริกัน และสมาคมหอสมุดอเมริกัน โดยถือว่าเป็นระบบการถ่ายถอดเสียงที่เหมาะสมสำหรับภาษาจีนกลาง ครั้นปี พ.ศ. 2522 องค์การมาตรฐานนานาชาติ (ISO) ก็ได้รับเอาพินอินเป็นระบบมาตรฐาน (ISO 7098) ในการถ่ายทอดเสียงภาษาจีนปัจจุบันด้วยอักษรโรมัน (the standard romanization for modern Chinese)

สิ่งสำคัญที่ต้องระลึกไว้ก็คือ พินอินนั้น เป็นการทับศัพท์ด้วยอักษรโรมัน (Romanization) มิใช่การถ่ายถอดเสียงแบบภาษาอังกฤษ (Anglicization) นั่นคือ การกำหนดให้ใช้ตัวอักษรตัวหนึ่ง สำหรับแทนเสียงหนึ่ง ๆ ในภาษาจีนไว้อย่างตายตัว เช่น b และ d ในระบบพินอิน เป็นเสียง "ป" และ "ต" ตามลำดับ ซึ่งแตกต่างจากระบบการออกเสียงส่วนใหญ่ ไม่ว่าอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือภาษาอื่นในยุโรป ขณะที่อักษร j หรือ q นั้นมีเสียงไม่ตรงกับในภาษาอังกฤษเลย กล่าวสั้น ๆ ก็คือ พินอินมุ่งที่จะใช้อักษรโรมัน เพื่อแทนเสียงใดเสียงหนึ่งโดยเฉพาะ เพื่อความสะดวกในการเขียน มิได้ยืมเสียงจากระบบของอักษรโรมันมาใช้ การใช้ระบบนี้นอกจากทำให้ชาวต่างชาติเขียนอ่านภาษาจีนได้สะดวกแล้ว ยังสามารถใช้กับคอมพิวเตอร์ได้สะดวกอย่างยิ่งด้วย

ต่อไปนี้เป็นการถ่ายถอดเสียงภาษาจีน (ที่เขียนด้วยอักษรโรมันในระบบพินอิน) ด้วยอักษรไทย โปรดสังเกตว่า บางหน่วยเสียงในภาษาจีนไม่มีหน่วยเสียงที่ตรงกันในภาษาไทย จึงต้องอนุโลมใช้อักษรที่ใกล้เคียง ในที่นี้จึงมีอักษรไทยบางตัว ที่ต้องใช้แทนหน่วยเสียงในภาษาจีนมากกว่าหนึ่งหน่วยเสียง ทั้งนี้เพื่อเป็น "เกณฑ์อย่างคร่าว ๆ" สำหรับการเขียนคำทับศัพท์ภาษาจีน
Consonants พยัญชนะในภาษาจีนมี 21 ตัวคือ
ZhuyinTongyong PinyinHanyu PinyinWade-GilesIPAตัวอย่าง(Zhuyin, Pinyin)
เปอbbpp八 (ㄅㄚ, bā)
เพอppp'杷 (ㄆㄚˊ, pá)
เมอmmmm馬 (ㄇㄚˇ, mǎ)
เฟอfff 法 (ㄈㄚˇ, fǎ)
เตอddt 地 (ㄉㄧˋ, dì)
เทอttt'提 (ㄊㄧˊ, tí)
เนอnnn 你 (ㄋㄧˇ, nǐ)
เลอlll 利 (ㄌㄧˋ, lì)
เกอggk 告 (ㄍㄠˋ, gào)
เคอkkk'考 (ㄎㄠˇ, kǎo)
เฮอhhh 好 (ㄏㄠˇ, hǎo)
จีjjch 叫 (ㄐㄧㄠˋ, jiào)
ชีcqch' 巧 (ㄑㄧㄠˇ, qiǎo)
ซีsxhs 小 (ㄒㄧㄠˇ, xiǎo)
จือjhih 【jh】zhi 【zh】chih 【ch】ʈʂɚ主 (ㄓㄨˇ, zhǔ)
ชือchih 【ch】chi 【ch】ch'ih 【ch'】ʈʂʰɚ出 (ㄔㄨ, chū)
ซือshih 【sh】shi 【sh】shih 【sh】ʂɚ束 (ㄕㄨˋ, shù)
ยือrih 【r】ri 【r】jih 【j】ʐɚ入 (ㄖㄨˋ, rù)
จือzih 【z】zi 【z】tzû 【ts】tsɨ在 (ㄗㄞˋ, zài)
ชือcih 【c】ci 【c】tz'û 【ts'】tsʰɨ才 (ㄘㄞˊ, cái)
ซือsih 【s】si 【s】ssû 【s】ɤŋ塞 (ㄙㄞ, sāi)

Vowels สระมี 16 ตัวคือ ㄚ ㄛ ㄜ ㄝ ㄞ ㄟ ㄠ ㄡ ㄢ ㄣ ㄤ ㄥ ㄦ 一 ㄨ ㄩ
ZhuyinTongyong PinyinHanyu PinyinWade-GilesIPAตัวอย่าง(Zhuyin, Hanyu)
อาaaaa大 (ㄉㄚˋ, dà)
ออoooo多 (ㄉㄨㄛ, duō)
เออeeeo/ê得 (ㄉㄜˊ, dé)
เอeêeh 爹 (ㄉㄧㄝ, diē)
ไอaiaiaiai晒 (ㄕㄞˋ, shài)
เอยeieieiei誰 (ㄕㄟˊ, shéi)
เอาaoaoaoao少 (ㄕㄠˇ, shǎo)
โอouououou收 (ㄕㄡ, shōu)
อานanananan山 (ㄕㄢ, shān)
เอินenenenên申 (ㄕㄣ, shēn)
อางangangangang上 (ㄕㄤˋ, shàng)
เอิงengengengszŭ生 (ㄕㄥ, shēng)
เอ๋อerererhêrh而 (ㄦˊ, ér)
อี一 หรือㄧyi 【i】yi 【i】yi 【i】i逆 (ㄋㄧˋ, nì)
  yin 【in】yin 【in】yin 【in】 音 (ㄧㄣ, yīn)
  ying 【ing】ying 【ing】ying 【ing】 英 (ㄧㄥ, yīng)
อูwu 【u】wu 【u】wu 【u】wu努 (ㄋㄨˇ, nǔ)
  wun 【un】wen 【un】wen 【un】 文 (ㄨㄣˊ, wén)
  wong 【ong】weng 【ong】ng 【ung】 翁 (ㄨㄥ, wēng)
อวีyu 【u, yu】yu 【u, ü】yü 【ü】女 (ㄋㄩˇ, nǚ)
  yun 【un, yun】yun 【un】yün 【ün】 韻 (ㄩㄣˋ, yūn)
  yongyong 【iong】yung 【iung】 永 (ㄩㄥˇ, yǒng)

Tones วรรณยุกต์ มีดังนี้ ╴ ˊ ˇ ˋ ˙
Zhuyinเทียบเสียง
วรรณยุกต์ไทย
 PinyinTongyong PinyinWade-GilesZhuyinIPAตัวอย่าง
(ตัวเต็ม/ตัวย่อ)
1ปกติอินmama1ㄇㄚma˥˥媽/妈
2ˊจัตวาหยังmaˊma2ㄇㄚˊma˧˥麻/麻
3ˇเอกชั้งmaˇma3ㄇㄚˇma˨˩˦馬/马
4ˋโทชี้maˋma4ㄇㄚˋma˥˩罵/骂
5˙เสียงสั้น ˙mama˙ma5ㄇㄚ˙ 
การผสมเสียงระหว่างสระ
ZhuyinPinyinคำอ่านZhuyin
一﹍
Pinyin
i﹍
คำอ่านZhuyin
ㄨ﹍
Pinyin
u﹍
คำอ่านZhuyin
ㄩ﹍
Pinyin
ű﹍
คำอ่าน
aอา﹍一ㄚ-iaเอีย﹍ㄨㄚ-uaอวา   
oออ   ﹍ㄨㄛ-uoอวอ   
eเออ         
êเอ﹍一ㄝ-ieอีเอ   ﹍ㄩㄝ-űeเอวีย
aiไอ   ﹍ㄨㄞ-uaiอวาย   
eiเอย   ﹍ㄨㄟ-uiอุย   
aoเอา﹍一ㄠ-iaoเอียว      
ouโอ﹍一ㄡ-iuอิว      
anอาน﹍一ㄢ-ianเอียน﹍ㄨㄢ-uanอวน﹍ㄩㄢ-űanเอวียน
enเอิน﹍一ㄣ-inอิน﹍ㄨㄣ-unอวุน﹍ㄩㄣ-űnอวีน
angอาง﹍一ㄤ-iangเอียง﹍ㄨㄤ-uangอวง   
engเอิง﹍一ㄥ-ingอิง﹍ㄨㄥ-ongอง﹍ㄩㄥ-iongอีอง
คำศัพท์ภาษาจีน

ครอบครัว 家庭
คำศัพท์พินอินคำอ่านความหมาย
祖父zǔfùจู่ฟู่ปู่
祖母zǔmǔจู๋หมู่ย่า
外祖父wàizǔfùว่ายจู่ฟู่ตา
外祖母wàizǔmǔว่ายจู๋หมู่ยาย
爷爷yěyěเหยเหย่ปู่
奶奶nǎināiหน่ายนายย่า
外公wàigōngว่ายกงตา
外婆wàipōว่ายโพยาย
父亲fùqīnปู่ชินพ่อ
母亲mǔqīnหมู่ชินแม่
爸爸bàbaป้าป่าพ่อ
妈妈māmaม๊ามะแม่
兄弟xiōngdìซงตี้พี่น้อง(ผู้ชาย)
姐妹jiěmèiเจี่ยเม่ยพี่น้อง(ผู้หญิง)
哥哥gēgeเก๊อเกอพี่ชาย
姐姐jiějieเจี่ยเจียพี่สาว
弟弟dìdiตี้ติน้องชาย
妹妹mèimeiเหม่ยเมยน้องสาว
儿子érziเอ๋อจื่อลูกชาย
女儿          nǚérหนี่เอ๋อลูกสาว
孩子háiziไหจื่อลูก
男孩nánháiหนานไหลูกผู้ชาย
女孩nǚháiหนี่ไหลูกผู้สาว
岳父yuèfuเย่ฟู่พ่อตา
义父yìfuอี้ฟู่พ่อบุญธรรม
公公gōnggōngกงกงพ่อปู่
父母fùmǔฟู่หมู่พ่อแม่
妻子qīziชีจื่อภรรยา
母亲mùqīnมู่ชินมารดา
义母yìmǔอี้หมู่แม่บุญธรรม
婆婆pópoโผโพะแม่ย่า
岳母yuèmǔเยว่หมู่แม่ยาย
祖母zǔmǔจู๋หมู่ย่า
伯伯bóboโป๋โปะลุง
外孙wàisūnว่ายซุนหลานชายตา
外甥wàishēngว่ายเซิงหลานชายน้า
孙子sūnziซุนจื่อหลานชายปู่
侄儿zhí érจื๋อเอ๋อหลานชายตา
外孙女wàisūnnǚว่ายซุนหนี่หลานสาวตา
孙女sūnnǚซุนหนี่หลานสาวปู่
侄女zhínǚจื๋อหนี่หลานสาวอา
姑丈gūzhàngกูจ้างอาเขย,ลุงเขย
叔叔shúshuสูสุอาชาย
婶母shěnmǔเสินหมุ่อาสะใภ้
姑母gūmǔกูหมู่อาหญิง,ป้า

อาหาร 食品
คำศัพท์พินอินคำอ่านความหมาย
早餐 zǎocānเจ่าชานอาหารมื้อเช้า
晚餐wǎncānหว่านชานอาหารมื้อค่ำ
午餐 wǔcānอู่ชานาหารว่างช่วงกลางวัน
面包 miàn bāoเมี่ยนเปาขนมปัง
烤面包 kǎo miàn bāoเข่าเมี่ยนเปาขนมปังปิ้ง
热狗 rè gǒuเร่อโก่วฮอทด็อก
三明治sān míng zhìซาน หมิงจื้อแซนด์วิช
饼干 bǐng gānปิ่งกานขนมปังกรอบ
沙拉shā lāซาลาสลัด
甜食tián shíเถียนสือของหวาน
布丁 bù dīngปู้ติงขนมพุดดิ้ง
芥末jiè mòเจี้ย โม่มัสตาร์ด
粥 zhōuโจวข้าวต้ม โจ๊ก
半熟鸡蛋bàn shú jī dànป้านสูจีต้านไข่ลวก
面条 miàn tiáoเมี่ยนเถียวก๋วยเตี๋ยว
意大利面yì dà lì miànอี้ต้าลี่เมี่ยนสปาเกตตี
香肠xiāng chángเซียง เฉิงไส้กรอก
自助餐 zìzhùcānจื้อ จู้ ชานอาหารบุฟเฟต์
饺子 jiǎoziเจี่ยวจือเกี๊ยว
馒头 mántóuหมานโถวหมั่นโถว
斋菜zhāi càiจาย ไช่อาหารเจ
开胃菜 kāi wèi càiคายเว่ยไช่ออร์เดิฟ
通心粉 tōng xīn fěnทงวินเผิ่น มะกะโรนี
熟煎饼 shú jiān bǐngสูเจียน ปิ่งขนมแพนเค้ก
油条 yóutiáoโหยวเถียวปาท่องโก๋
豆浆 dòujiāngโต้วเจียงน้ำเต้าหู้
清汤qīngtāng.ชิงทางซุปน้ำใส
浓汤nóng tāng.หนงทางซุปน้ำข้น
火腿huǒtuǐ.หั่วทุยหมูแฮม
猪排zhūpái.จูไผสเต็กหมู
炒饭chǎofàn.เฉ่าฟ่านข้าวผัด


สัตว์ 动物
คำศัพท์พินอินคำอ่านความหมาย
Xióngสงหมี
老虎Lǎohǔเหลาสู่เสือ
狮子Shīziซือจื่อสิงโต
犀牛Xīniúซีหนิวแรด
Gǒuโก่วสุนัข
Māoเมาแมว
熊猫Xióngmāoสงเมาหมีแพนด้า
大象Dà xiàngต้าเซี่ยงช้าง
斑马Bānmǎปานหม่าม้าลาย
鹿ลู่กวาง
袋鼠Dàishǔไต้สู่จิงโจ้
猴子Hóuziโหวจื่อลิง
狐狼Hú lángหูหลางสุนัขจิ้งจอก
河马Hémǎเหอหม่าฮิปโปโปเตมัส
刺猬Cìweiชื่อเวยเม่น
松鼠Sōngshǔซงสู่กระรอก
长颈鹿Chángjǐnglùฉางจิ่งลู่ยีราฟ
鳄鱼Èyúเอ้อหยีร์จระเข้
豹子Bàoziเป้าจื่อเสือดาว
โม่สมเสร็จ
Lángหลางสุนัขป่า
野牛Yěniúเหย่หนิววัวกระทิง
蝙蝠Biānfúเปียนฝุค้างคาว
无尾熊Wú wěi xióngอู๋เหว่ยสงหมีโคอะล่า
大猩猩Dà xīngxīngต้าซิงซิงลิงกอริลา
骆驼Luòtuoลั่วทัวอูฐ
黑猩猩Hēixīngxīngเฮยซิงซิงลิงชิมแปนซี
牦牛Máo niúเหมาหนิวจามรี
北极熊Běijíxióngเป่ยจี๋สงหมีขั้วโลกเหนือ
浣熊Huànxióngฮ่วนสงแร็กคูน
猩猩Xīngxīngซิงซิงลิงอุรังอุตัง
Shéเสองู
จีไก่
Shǔสู่หนู
ยาเป็ด
水牛Shuǐniúสุ่ยหนิวควาย


แม่น้ำ河  

ชื่อจีนพินอินคำอ่านชื่อไทย
湄平河Méi pínghéเหม่ยผิงเหอแม่น้ำปิง
湄公河Méigōnghéเหม่ยกงเหอแม่น้ำโขง
黄河Huánghéหวงเหอแม่น้ำเหลือง
长江Chángjiāngฉางเจียงแม่น้ำแยงซีเกียง
伊洛瓦底江Yīluòwǎdǐjiāngอีลั่วหวาตี่เจียงแม่น้ําอิระวดี
尼罗河Níluóhéนี่หลัวเหอแม่น้ำไนล์ 
亚马逊河Yà mǎ xùn héย่าหม่าซุ่นเหอแม่น้ำแอมะซอน 
刚果河Gāngguǒ héกางกั่วเหอแม่น้ำคองโก
恒河Héng héเหิงเหอแม่น้ําคงคา
阿穆尔河Āmù'ěr héอามู่เอ่อเหอแม่น้ำอามูร์
莱茵河Láiyīn héไหลอินเหอแม่น้ำไรน์
墨累河Mò lèi héโม่เลี่ยเหอแม่น้ำเมอร์เรย์ 
巴拉圭河Bālāguī héปาลากุยเหอแม่น้ำปารากวัย
格兰德河Gé lán dé héเก๋อหลานเต่อเหอแม่น้ำริโอแกรนด์


วิชาการ 学术
 
คำศัพท์พินอินคำอ่านความหมาย
科目                  kēmùเคอมู่วิชา
医学yīxuéอีเสียแพทย์ศาสตร์
物理学wùlǐxuéอู้หลี่เสียฟิสิกส์
语言学yǔyánxuéยวี่เหยียนเสียภาษาศาสตร์
哲学zhéxuéเจ๋อเสียปรัชญา
历史lìshǐลี่สื่อประวัติศาสตร์
法学fǎxuéฝ่าเสียนิติศาสตร์
生物学shēngwùxuéเซิงอู้เสียชีววิทยา
化学huàxuéฮว่าเสียเคมี
数学shùxuéซุ่เสียคณิตศาสตร์
经济学jīngjìxuéจิ้งจื่อเศรษศาสตร์
教育学jiàoyùxué     เจี้ยวยวี่เสียศึกษาศาตร์
人文学科rénwénkēxuéเหรินเหวินเคอเสียศิลปศาสตร์
工程学gōngchēngxuéกงเฉิงชือวิศวกรรมศาสตร์
文学wénxuéเหวินเสียวรรณคดี
政治学zhèngzhìxuéเจิ้งจื่อเสียรัฐศาตร์
地理学dìlǐxuéตี้หลี่เสียภูมิศาสตร์
药学yàoxuéเย่าเสียเภสัชศาสตร์
营养yíngyángหยิงหยางโภชนาการ
การแสดงความเห็นด้วยในภาษาจีน   

1.好吧
   Hǎo ba
   ห่าวปา
   โอเค

2.行
    Xíng
    สิง
    ได้

3.可以
   Kěyǐ
   เขออี่
   ได้

4.对
   Duì
   ตุ้ย
   ใช่,ถูกต้อง

5.没错
   Méicuò
   เหมยชั่ว
   ไม่เลว

6.好主意
   Hǎo zhǔyì
   หาวจู่อี้
   ความคิดดี

7.有道理
   Yǒu dàolǐ
    โหย่วเต้าหลี่
    มีเหตุผล

8.我同意
    Wǒ tóngyì
    หว่อทงอี้
    ฉันเห็นด้วย

9.听你的
   Tīng nǐ de
   ทิงหนี่เตอ
   แล้วแต่คุณ

10.我没意见
      Wǒ méi yìjiàn
      หว่อเหมยอี้เจี้ยน
      ฉันไม่มีความคิดเห็น

11.你说对了
      Nǐ shuō duìle
      หนี่ ชัว ตุ้ย เลอ
      คุณพูดถูกแล้ว

12.我也是这样想的
      Wǒ yěshì zhèyàng xiǎng de
      หว่อ เหย่ ซื่อ เจ้อ ย่าง เสี่ยงเตอ
      ฉันก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน

การทักทายในภาษาจีน

1.你好
    Nǐ hǎo
    หนี่ห่าว
    สวัสดี

2.您好
    Nín hǎo
    หนินห่าว
    สวัสดี

3.早安
   Zǎo ān
   เจ่าอาน
   อรุณสวัสดิ์

4.早上好
   Zǎoshang hǎo
   เจ่าซ่างห่าว
   สวัสดีตอนเช้า

5.晚安
   Wǎn'ān
   หวานอาน
   ราตรีสวัสดิ์

6.晚上好
   Wǎnshàng hǎo
   หว่านซ่างห่าว
   สวัสดีตอนเย็น

7.老师好
   Lǎoshī hǎo
   เหล่าซือห่าว
   สวัสดีคุณครู/อาจารย์
 
8.好久不见,你怎么样?
   Hǎojiǔ bùjiàn, nǐ zěnme yàng?
   ห่าวจิ่วปู๋เจี้ยน หนี๋เจิ่นเมอย่าง
   ไม่ได้เจอกันนาน เป็นไงบ้าง

9.最近忙吗?
   Zuìjìn máng ma?
   จุ้ยจิ้น หมางมะ
   ช่วงนี้ยุ่งไหม


10.你身体好吗?
      Nǐ shēntǐ hǎo ma?
      หนี่เซินถี่ห่าวมะ
      คุณสุขภาพเป็นไงบ้าง

11.我的身体很好。
      Wǒ de shēntǐ hěn hǎo.
      หว่อเตอเซินถี่เหิ่นห่าว
       สุขภาพฉันดี

12.你父母身体好吗?
      Nǐ fùmǔ shēntǐ hǎo ma?
      หนี่ ฟู่หมู่ เซินถี่ ห่าวมะ
      พ่อแม่คุณสุขภาพเป็นไงบ้าง

13.带我向他们问好。
     Dài wǒ xiàng tāmen wènhǎo.
     ไต้หว่อเซี่ยงทาเมิน เวิ่นห่าว
      ฝากสวัสดีพ่อแม่คุณด้วย

14.你好吗?
      Nǐ hǎo ma?
      หนีห่าวมะ
      คุณสบายดีไหม

15.我很好,你呢
      Wǒ hěn hǎo, nǐ ne
      หว่อ เหินห่าว หนี่เนอ
      ฉันสบายดี คุณล่ะ

16.我也很好。
      Wǒ yě hěn hǎo.
      หว่อ เหย่ เหิน ห่าว
      ฉันก็สบายดี

การกล่าวลาในภาษาจีน 

1.再见
   Zàijiàn
   จ้าย เจี้ยน
   พบกันใหม่

2.明天见.
   Míngtiān jiàn.
   หมิงเทียนเจี้ยน
   พรุ่งนี้เจอกัน

3.回头见.
   Huítóu jiàn.
   หุยโถวเจี้ยน
   แล้วพบกันใหม่

4.有空长联系.
   Yǒu kòng cháng liánxì.
   โหย่วโค่งฉางเหลียนซี่
   มีเวลาเจอกันใหม่นะ

5.对不起,我先走了.
   Duìbùqǐ, wǒ xiān zǒuliǎo.
   ตุ้ยปู้ฉี่ หว่อเซียนโจ่วเลอ
   ขอโทษนะ ฉันต้องไปก่อนแล้ว

6.你多保重.
    Nǐ duō bǎozhòng.
    หนี่ ตัว ป่าว จ้ง
    ดูแลตัวเองให้ดีๆนะ

7.一路平安
    Yīlù píng'ān
     อี๋ลู่ผิงอาน
     เดินทางโดยสวัสดิภาพ

8.一路顺风
    Yīlù shùnfēng
    อี๋ลู่ซุ่นเฟิง
    เดินทางโดยสวัสดิภาพ

9.到了以后,我给你打电话。
     Dàole yǐhòu, wǒ gěi nǐ dǎ diànhuà.
     เต้าเลออี่โฮ่ว หวอเก่ยหนี่ต่าเตี้ยนฮว่า
     หลังจากไปถึงแล้ว ฉันจะโทรศัพท์หาคุณ

การขอบคุณ 

1.谢谢
    Xièxiè
    เซี่ยเซี่ย
    ขอบคุณ

2.多谢
    Duōxiè
    ตัวเซี่ย
    ขอบคุณมาก

3.太感谢你
    Tài gǎnxiè nǐle
    ไท่ ก่าน เซี่ย หนี่
    ขอบพระคุณมากๆ

4.谢谢你的帮助
    Xièxiè nǐ de bāngzhù
    เซี่ยเซี่ย หนี่ เตอ ปาง จู้
    ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือ

5.麻烦您了
    Máfan nínle
    หมา ฝ่าน หนิน เลอ
    รบหวนคุณแล้ว

6.辛苦你了
    Xīnkǔ nǐle
    ซิน ขุ่ หนีเลอ
    ลำบากคุณแล้ว

7.我很感谢
    Wǒ hěn gǎnxiè
    หว่อ เหิ่น ก่าน เซี่ย
    ฉันขอขอบคุณจริงๆ


การตอบรับ 

1.不用谢
   Bùyòng xiè
   ปู๋โย่งเซี่ย
   ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก

2.不客气
   Bù kèqì
   ปู๋เค่อชี่
   ไม่ต้องเกรงใจ

3.别客气
   Bié kèqì
   เปี๋ยเค่อชี่
   ไม่ต้องเกรงใจ

4.没关系
   Méiguānxì
   เหมยกวานซี
   ไม่เป็นไร

5.没什么
   Méishénme
   เหมย เสิน เมอ
   ไม่เป็นไร

6.你太客气了
    Nǐ tài kèqìle
    หนี่ ไท่ เค่อ ฉี่ เลอ
    คุณเกรงใจมากไปแล้ว

การขอโทษ 

1.对不起(โดยทั่วไปจะใช้ตัวนี้)
   Duìbùqǐ
   ตุ้ยปู้ฉี่
   ขอโทษค่ะ/ครับ

2.请原谅
   Qǐng yuánliàng
   ฉิ่ง เหยียนเลี่ยง
   ประทานโทษค่ะ/ครับ

3.不好意思
   Bù hǎoyìsi
   ปู้ห่าวอี้ซือ
   ขอโทษค่ะ/ครับ

4.真不好意思
   Zhēn bù hǎoyìsi
   เจิน ปู้ ห่าว อี้ ซือ
   ต้องขอโทษจริงๆ

5.打扰了
    Dǎrǎole
    ต่า หร่าว เลอ
    ต้องรบกวนแล้ว

6. 真抱歉(สุภาพมาก)
     Zhēn bàoqiàn
     เจิน ป้าว เชี่ยน
     ขออภัยค่ะ/ครับ


การตอบรับ 

1.没关系(โดยทั่วไปจะใช้ตัวนี้)
   Méiguānxì
   เหมย กวาน ซี
   ไม่เป็นไร

2.不要紧
   Bùyàojǐn
    ปู๋ เย่า จิ่น
   ไม่เป็นไร

3.别介意
   Bié jièyì
   เปี๋ย เจี้ย อี้
   ช่างเถอะ

4.没事儿
   Méishì er
   เหมย ซื่อร์
   ไม่เป็นอะไรหรอก

5.算了
   Suànle
   ซ่วน เลอ
   ลืมมันเถิด

6.这不是你的错
   Zhè bùshì nǐ de cuò
   เจ้อ ปู้ ซื่อ หนี่ เตอ ชั่ว
   ไม่ใช่ความผิดของคุณ
 


ตัวอย่างบทสนทนา  
ยินดีที่รู้จัก

A:你好 我是王美丽
    Nǐ hǎo wǒ shì wáng měilì
    หนีห่าว  หว่อซื่อหวังเหม่ยลี่
    
สวัสดี ฉันคือหวังเหม่ยลี่

B:你好 我是李天阳
    Nǐ hǎo wǒ shì litiānyáng
    หนีห่าว หว่อซื่อหลี่เทียนหยาง
    
สวัสดี ผมคือหลี่เทียนหยาง

A:我很高兴认识你
   Wǒ hěn gāoxìng rènshi nǐ
   หวอเหิ่นเกาซิ่งเริ่นซือหนี่

   ยินดีที่ได้รู้จักคุณ

B:我也很高兴认识你
    Wǒ yě hěn gāoxìng rènshi nǐ
    หวอเหยเหิ่นเกาซิ่งเริ่นซือหนี่
   
 ผมก็ยินดีที่ได้รู้จักคุณเช่นกัน

คำศัพท์น่ารู้
高兴   gāoxìng     ยินดี,ดีใจ
认识    rènshi       รู้จัก
คุณทำงานอะไร

A:你做什么工作?
    Nǐ zuò shén me gōng zuò
    หนี่ จั้ว เสิน เมอ กง จั้ว
    
คุณทำงานอะไร

B:我在一家电脑公司工作。
    wǒ zài yì jiā Diànnǎogōng sī gōng zuò
    หว่อ จ้าย อี้ เจีย เตี้ยน เหน่า กง ซือ กง จั้ว
   
 ฉันทำงานที่บริษัทคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง

A:你在这家公司工作多长时间了?
    Nǐzài zhè jiā gōng sī gōng zuò duō cháng shí jiān le
    หนี่ จ้าย เจ้อ เจีย กงซือ กงจั้ว ตัวฉาง สือเจียน เลอ
    
คุณทำงานที่บริษัทนี้นานเท่าไหร่แล้ว

B:我在这家公司工作3年了。
    Wǒ zài zhè jiā gōng sī gōng zuò 3 nián le
    หว่อ จ้าย เจ้อ เจีย กงซือ กงจั้ว 3 เหนียนเลอ
    
ฉันทำงานที่บริษัทนี้ได้3ปีแล้ว

>>คำศัพท์น่ารู้

工作    gōng zuò    งาน,ทำงาน
公司    gōng sī       บริษัท
电脑    Diànnǎo     คอมพิวเตอร์

สบายดีไหม   

A:你好
    Nǐhǎo
   หนีห่าว
  
 สวัสดี

B:你好 ,你好吗
    Nǐhǎo   nǐhǎoma
   หนีห่าว  หนี ห่าว มา
   
สวัสดี   สบายดีไหม

A:我很好,你呢
   Wǒhěnhǎo  nǐne
   หวอ เหิน ห่าว  หนี่เนอ
   
ฉันสบายดี  คุณล่ะ

B:我也很好
    Wǒyěhěnhǎo
   หวอ เหย่ เหิน ห่าว
   
ฉันก็สบายดี

คุณจะไปไหน    

A:你到哪里去?
    Nǐ dào nǎlǐ qù?
    หนี่ เต้า หนา หลี่ ชู่ร์
   
 คุณจะไปที่ไหน

B:我到市场去。
    Wǒ dào shìchǎng qù
    หว่อ เต้า ซื่อ ฉ่าง ชูร์
   
 ฉันจะไปตลาด

A:你去做什么?
    Nǐ qù zuò shénme?
    หนี่ ชูร์ จั้ว เสิน เมอ
    
คุณไปทำอะไร

B:我去买东西。
    Wǒ qù mǎi dōngxi.
    หว่อ ชู่ร์ หม่าย ตง ซิ
   
 ฉันไปซื้อของ

A:你跟谁去?
    Nǐ gēn shuí qù?
    หนี่ เกิน เสย ชูร์
  
  คุณไปกับใคร

B:我一个人去。
    Wǒ yīgè rén qù
    หว่อ  อี๋ เก้อ เหริน ชู่ร์
   
 ฉันไปคนเดียว

คำศัพท์น่ารู้
东西     dōngxi       ของ,สิ่งของ
市场     shìchǎng   ตลาด
哪里     nǎlǐ            ที่ไหน
买         mǎi            ซื้อ

กี่โมงแล้ว    

A:现在几点了
   Xiànzài jǐ diǎnle
   เซี่ยน จ้าย จี่ เตี่ยน เลอ
  
 ตอนนี้กี่โมงแล้ว

B:十点半了
    Shí diǎn bànle
    สือ เตี่ยน ป้าน เลอ
    
สิบโมงครึ่งแล้ว

A:十点半了  他怎么还不来
    Shí diǎn bànle tā zěnme hái bù lái
    สือ เตี่ยน ป้าน เลอ ทา เจิ่น เมอ ไห ปู้ ไหล
    
สิบโมงครึ่งแล้ว  ทำไมเขายังไม่มา

B:别着急,再等一会儿吧
   Bié zhāojí, zài děng yīhuǐ'er ba
   เปี๋ยเจ๋าจี๋   จ้าย เติ่ง อี๋ ฮุ่ยร์ ปา
  
 ไม่ต้องรีบร้อน  รอสักครู่เถอะ


คุณเรียนที่ไหน 你在哪儿学习? 

A:你学习什么?
    nĭ xuéxí shénme?
    หนี่ เสีย สี เสินเมอ
    เธอเรียนอะไร

B:我学习泰语。
    wŏ xuéxí Tài yǔ.
     หว่อ เสีย สี ไท่ ยี๋ร์
    ฉันเรียนภาษาไทย

A:你在哪儿学习?
    nĭ zài năr xuéxí?
    หนี่ จ้าย หน่า เสีย สี
    เธอเรียนอยู่ที่ไหน

B:我在清迈大学学习。
    Wǒ zài qīng mài dàxué xuéxí.
    หว่อ จ้าย ชิง ม่าย ต้าเสีย เสีย สี
     ฉันเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

A:你觉得泰语难吗?
    nĭ juéde Tài yǔ nán ma?
    หนี่ เจี๋ย เต๋อ ไท่ ยี๋ร์ หนาน มะ
    เธอรู้สึกว่าภาษาไทยยากมั้ย

B: 我觉得泰语很容易
     Wǒ juéde tài yǔ hěn róngyì.
     หว่อ เจี๋ย เต๋อ ไท่ ยี๋ เหิ่น  ร๋งอี้           
     ฉันรู้สึกว่าภาษาไทยง่ายมาก



ฉันเป็นคนไทย  我是泰国人  

A:你是中国人吗?
    Nǐ shì zhōngguó rén ma?
    หนี่ซื่อจงกั๋วเหรินมะ
    คุณเป็นคนจีนใช่ไหม

B:不是,我是泰国人.
   Bùshì, wǒ shì tàiguó rén
   ปู๋ซื่อ หว่อซื่อไท่กั๋วเหริย
   ไม่ใช่ค่ะ ฉันเป็นคนไทย
 
A:那 为什么你的中文很好?
    Nà wèishéme nǐ de zhōngwén hěn hǎo
    น่า เว่ยเสินเมอ หนี่เตอ จงเหวิน เหินห่าว
    แล้วทำไมภาษาจีนของคุณดีมาก

B:噢,我以前在中国学中文三年.
    wǒ yǐqián zài zhōngguó xué zhōngwén sān nián
    หว่อ อี่เฉียน จ้ายจงกั๋ว เสีย จงเหวิน ซานเหนียน
    อ๋อ  ก่อนหน้านี้ฉันเรียนภาษาจีนที่ประเทศจีนได้สามปีน่ะ


คำศัพท์น่ารู้ 
 
中文            zhngwén     ภาษาจีน
中国            Zhōngguó   ประเทศจีน
泰国人        Tàiguó rén  คนไทย


อ้างอิง
สามารถศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่  http://jeenmix.com/



สื่อคำศัพท์ภาษาจีนที่ผมตั้งใจนำเสนอครับ

(ผมภูมิใจกับมันมาก)





หน้าปก

 

1


2


3

4


5

6

7

8

9

 

 

10

 

11
12

13

14


15
16
 
17

18


19
20