ประวัติผู้จัดทำ
สวัสดีครับ ผมชื่อ ด.ช.ณฐพล ธวัชชัยสกุล ชื่อเล่นชื่อว่า ฮ่อ ตอนนี้ผมกำลังศึกษาอยู่
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ผมสร้างบล็อกนี้ขึ้นมาเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับภาษาจีน ครับ เนื่องจากในปี 2558 นี้ประเทศไทยของเราก็จะเป็นอาเซียนแล้ว ทำให้ภาษาเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของเรา เพราะจะมีคนมากมายหลายชาติหลั่งไหลเข้ามาอยู่ในประเทศของเรา และผมเห็นว่าภาษาจีนเป็นอีกภาษาหนึ่ง(นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ)ที่มีความสำคัญและมีการใช้กันอย่าแพร่หลาย ผมจึงได้สร้างบล็อกนี้ขึ้นมาครับ


ภาษาจีนเป็นภาษารูปภาพไม่ใช่ภาษาสะกดผสมอักษรดังเช่นภาษาไทยจึงควรศึกษาวิธีเขียนอ่านสะกดภาษจีนเอาไว้เพื่อเวลาพบอักษรตัวใดที่อ่านไม่ออก หรือไม่มั่นใจในการออกเสียง สามารถเปิดค้นหาอ่านในพจนานุกรมและใช้แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ เพื่อพิมพ์อักษรจีนแบบสะกดคำได้
วิธีเขียนตัวสะกด เพื่อการอ่านออกเสียงได้ถูกต้องที่นิยมใช้ในหลายระบบ เช่น
- Zhuyin fuhao ( 注音符號 : Zhùyīn fúhào)
- Tongyoung Pinyin (通用拼音 : Tōngyòng pīnyīn)
- Hanyu Pinyin (漢語拼音 : Hànyǔ pīnyīn)
- Four - corner (四 - 角落 : Sì - jiǎoluò)
เราควรรู้จักพยัญชนะและสระในภาษาจีนเสียก่อนเปรียบเหมือนการเรียน ก-ฮ ในภาษาไทยนั้นเอง
ในการเริ่มต้นศึกษาควรอ่านท่องเสียงให้ได้เเม่นยำในระบบใดระบบหนึ่งก่อน เช่น
แบบจู้อิน Zhuyin 注音
เป็นแบบดั้งเดิมของจีนที่ใช้กันมาช้านานเป็นที่นิยมใช้ในหมู่คนจีนที่ผ่านการศึกษาในรุ่นก่อนๆในประเทศจีนไต้หวันเป็นต้น
แบบพินอิน Pinyin 拼音
เป็นแบบใหม่ที่ใช้กันในระบบการศึกษาของสาธารณะประชาชนจีนและจะพบเห็นได้ในเอกสารที่ตีพิมพ์ในยุคหลังๆ
ซึ้งทั้งสองระบบนี้ยังเป็นที่นิยมใช้กันในหมู่ชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีให้พบเห็นได้โดยทั่วไปแม้นจะมีวิธีการเขียนผสมคำและเงื่อยไขลายละเอียดปีกย่อยแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่ก็สามารถสื่อสารให้คำอ่านถูกต้องชัดเจนไม่ต่างกันมากนัก เว้นแต่ตัวผู้อ่านเองที่ติดในสำเนียงท้องถิ่นเกิดที่แตกต่างกัน จึงทำให้สะกดได้สำเนียงที่เพี้ยนกันอยู่บ้างเล็กน้อยที่ไม่อาจถือว่าเป็นปัญหาของวิธีการสะกดในแต่ละระบบ

อักษรจีนปรากฏมีให้ใช้ตั้งแต่เมื่อไร จนปัจจุบันก็ยังไม่สามารถรู้แน่ชัดได้ แต่มีการเล่าขานกันว่า ฝูซีเป็นผู้กำหนดสัญลักษณ์แผนภูมิอัฏฐลักษณ์ (ปากว้า) ขึ้น ใช้แสดงบอกปรากฏการณ์ธรรมชาติ 8 ลักษณะใหญ่ เช่น ฟ้า ดิน น้ำ ไฟ เป็นต้น ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นต้นกำเนิดของอักษรจีน
ตำนานซังเจี๋ยประดิษฐ์อักษร
นอกจากนี้ยังมีตำนานเล่าไว้ว่า ซังเจี๋ย ขุนนางฝ่ายอาลักษณ์ของพระเจ้าหวงตี้เป็นผู้ประดิษฐ์อักษรจีน กล่าวกันว่าซังเจี๋ยเฝ้าพินิจสรรพสิ่งบนท้องฟ้าและพิเคราะห์รูปลักษณ์ของขุนเขา ลุ่มน้ำ ลำธาร พิจารณารอยกีบสัตว์ ตีนนก และแมลงนานาชนิด แล้วคิดประดิษฐ์อักษรขึ้น แต่ในความเป็นจริง การก่อเกิดตัวอักษรจำเป็นต้องผ่านพัฒนาการเป็นเวลายาวนาน ซังเจี๋ยอาจจะเป็นผู้หนึ่งที่จัดการปรับปรุงอักษรที่มีอยู่แล้วก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม เราก็รู้ได้อย่างหนึ่งว่า อักษรจีนมีประวัติศาสตร์และพัฒนาการมาช้านาน

จากการปฏิรูปตัวพาหะอักษรจีนย่อมเป็นที่ประจักษ์ว่าตัวพาหะอักษรจีนได้วิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องตามครรลองที่คล่องแคล่วเงื่อนไขเบื่องต้นในการชี้ขาดอัตราความเร็วในการพัฒนาของมัน คือ การเปลี่ยนแปลงทางสังคม การวิวัฒนาการทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีในยุคโบราณ การพัฒนาเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ของจีนเดินทางอยู่ข้างหน้าการพัฒนาตัวพาหะอักษรจีนจึงมีอัตราความเร็วสูง ในยุคไกล้เศรษฐกิจวัฒนธรรมจีนล้าหลัง

ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ตัวอักษรจีนที่ถือได้ว่าเป็นการปฏิวัติโดยแท้มี 3 ครั้ง
ครั้งแรก คือ หลังจากกษัตริย์องค์แรกของราชวงศ์ฉิน สามารถรวม 6 ก๊กเป็นหนึ่งเดียวได้ดำเนินนโยบายการปฏิรูป "ให้ตำราทุกเล่มใช้ตัวอักษรเดียวกัน" นับได้ว่าเป็นการปฏิรูปตัวอักษรจีนให้เป็นมาตราฐานครั้งแรกในประวัติศาสตร์จีน
ครั้งที่สอง คือ ตัวอักษรจีนได้เปลี่ยนรูปแบบของตัวหนังสือ
ครั้งที่สาม คือ การย่อตัวอักษรจีนให้สั้นลงและได้เขียนง่ายขึ้นนิดหน่อย


ณ ที่นี้จะข้อกล่าวถึงลำดับขีดพื้นฐานโดยทั่วไปมี 7 แบบ (ซึ่งในความเป็นจริงมีมากกว่า 7 แบบ บางตำรากล่าวถึง 13 แบบ )
1. บนลงล่าง

2. ขีดขวางแล้วค่อยขีดตั้ง

3. ตรงกลางก่อนแล้วซ้ายขวา

4.ตีกรอบนอก เขียนข้างในแล้วค่อยปิด


5. ป้ายซ้ายก่อนแล้วค่อยป้ายขวา


6.、ซ้ายก่อนแล้วค่อยขวา

7、ด้านนอกก่อนค่อยด้านใน


ลัญลักษณ์แต่ละตัวแสดงในภาษาจีนและความหมายมีจุดกำเนิดจากรูป คน สัตว์ สิ่งของ ฯลฯ แต่เมื่อเวลาผ่านไปรูปร่างของอักษรก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างเเละไม่เหมือนกับสิ่งที่เลียนแบบอีกต่อไปสัญลักษณ์ บางตัวเกิดจากสัญลักษณ์ตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไปมารวมกัน
ระบบอักษรจีนไม่มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนอักษร พจนานุกรมที่ใหญ่ที่สุดชื่อ Zhonghua Zihai มีอักษร 85568 ตัว แต่ส่วนใหญ่มีที่ใช้น้อยการรู้อักษรเพียง 3000 ตัวก็จะสามารถ พูดจีนอ่านภาษาจีนได้ราว 99% แต่ถ้าอ่านวรรณคดี หนังสือโบราณต้อง 6000 ตัวนะ

อักษรจีนเป็นอักษรระบบอักษรภาพชนิดหนึ่ง ใช้แทนความหมายของคำ นักภาษาศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า การเขียนในจีนที่เก่าสุดเริ่มเมื่อ 957 ปีก่อนพุทธศักราช ไม่มีหลักฐานแสดงความเกี่ยวข้องกับการเขียนในบริเวณอื่น ตัวอย่างการเขียนภาษาจีนที่เก่าสุดมีอายุราว 957 – 407 ปี ก่อนพุทธศักราช (ราชวงศ์ซาง)ซึ่งเป็นจารึกบนกระดูกวัวและกระดองเต่า
พ.ศ. 2442 หวัง ยิรง (Wang Yirong) นักวิชาการจากปักกิ่ง พบสัญลักษณ์คล้ายอักษรบนกระดูกมังกรที่เขาได้รับจากเภสัชกร ในเวลานั้น กระดูกมังกรซึ่งมักเป็นซากฟอสซิลของสัตว์ ยังใช้ในการแพทย์แผนจีน กระดูกสัตว์เหล่านั้นพบมาก ในซากปรักหักพังของเมืองหลวงในสมัยราชวงศ์ซัง ทางเหนือของมณฑลเหอหนาน
พ.ศ. 2442 หวัง ยิรง (Wang Yirong) นักวิชาการจากปักกิ่ง พบสัญลักษณ์คล้ายอักษรบนกระดูกมังกรที่เขาได้รับจากเภสัชกร ในเวลานั้น กระดูกมังกรซึ่งมักเป็นซากฟอสซิลของสัตว์ ยังใช้ในการแพทย์แผนจีน กระดูกสัตว์เหล่านั้นพบมาก ในซากปรักหักพังของเมืองหลวงในสมัยราชวงศ์ซัง ทางเหนือของมณฑลเหอหนาน

พินอิน หรือ ฮั่นยฺหวี่พินอิน (จีนตัวเต็ม: 漢語拼音; จีนตัวย่อ: 汉语拼音; พินอิน: Hànyǔ Pīnyīn; จู้อิน แปลว่า การถอดเสียงภาษาจีน) คือระบบในการถ่ายถอดเสียงภาษาจีนมาตรฐาน ด้วยตัวอักษรโรมัน ความหมายของพินอินคือ "การรวมเสียงเข้าด้วยกัน" (โดยนัยก็คือ การเขียนแบบสัทศาสตร์ การสะกด การถ่ายถอดเสียง หรือการทับศัพท์)
พินอินเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2501 และเริ่มใช้กันในปี พ.ศ. 2522 โดย รัฐบาลของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยใช้แทนที่ระบบการถ่ายถอดเสียงแบบเก่า เช่น ระบบเวดและไจลส์ และระบบจู้อิน นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบระบบอื่น ๆ สำหรับนำไปใช้กับภาษาพูดของจีนในถิ่นต่าง ๆ และภาษาของชนกลุ่มน้อยที่ไม่ใช้ภาษาฮั่น ในสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย
นับแต่นั้นมา พินอินก็เป็นที่ยอมรับจากสถาบันนานาชาติหลายแห่ง รวมทั้งรัฐบาลสิงคโปร์ หอสมุดรัฐสภาอเมริกัน และสมาคมหอสมุดอเมริกัน โดยถือว่าเป็นระบบการถ่ายถอดเสียงที่เหมาะสมสำหรับภาษาจีนกลาง ครั้นปี พ.ศ. 2522 องค์การมาตรฐานนานาชาติ (ISO) ก็ได้รับเอาพินอินเป็นระบบมาตรฐาน (ISO 7098) ในการถ่ายทอดเสียงภาษาจีนปัจจุบันด้วยอักษรโรมัน (the standard romanization for modern Chinese)
สิ่งสำคัญที่ต้องระลึกไว้ก็คือ พินอินนั้น เป็นการทับศัพท์ด้วยอักษรโรมัน (Romanization) มิใช่การถ่ายถอดเสียงแบบภาษาอังกฤษ (Anglicization) นั่นคือ การกำหนดให้ใช้ตัวอักษรตัวหนึ่ง สำหรับแทนเสียงหนึ่ง ๆ ในภาษาจีนไว้อย่างตายตัว เช่น b และ d ในระบบพินอิน เป็นเสียง "ป" และ "ต" ตามลำดับ ซึ่งแตกต่างจากระบบการออกเสียงส่วนใหญ่ ไม่ว่าอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือภาษาอื่นในยุโรป ขณะที่อักษร j หรือ q นั้นมีเสียงไม่ตรงกับในภาษาอังกฤษเลย กล่าวสั้น ๆ ก็คือ พินอินมุ่งที่จะใช้อักษรโรมัน เพื่อแทนเสียงใดเสียงหนึ่งโดยเฉพาะ เพื่อความสะดวกในการเขียน มิได้ยืมเสียงจากระบบของอักษรโรมันมาใช้ การใช้ระบบนี้นอกจากทำให้ชาวต่างชาติเขียนอ่านภาษาจีนได้สะดวกแล้ว ยังสามารถใช้กับคอมพิวเตอร์ได้สะดวกอย่างยิ่งด้วย
ต่อไปนี้เป็นการถ่ายถอดเสียงภาษาจีน (ที่เขียนด้วยอักษรโรมันในระบบพินอิน) ด้วยอักษรไทย โปรดสังเกตว่า บางหน่วยเสียงในภาษาจีนไม่มีหน่วยเสียงที่ตรงกันในภาษาไทย จึงต้องอนุโลมใช้อักษรที่ใกล้เคียง ในที่นี้จึงมีอักษรไทยบางตัว ที่ต้องใช้แทนหน่วยเสียงในภาษาจีนมากกว่าหนึ่งหน่วยเสียง ทั้งนี้เพื่อเป็น "เกณฑ์อย่างคร่าว ๆ" สำหรับการเขียนคำทับศัพท์ภาษาจีน
พินอินเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2501 และเริ่มใช้กันในปี พ.ศ. 2522 โดย รัฐบาลของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยใช้แทนที่ระบบการถ่ายถอดเสียงแบบเก่า เช่น ระบบเวดและไจลส์ และระบบจู้อิน นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบระบบอื่น ๆ สำหรับนำไปใช้กับภาษาพูดของจีนในถิ่นต่าง ๆ และภาษาของชนกลุ่มน้อยที่ไม่ใช้ภาษาฮั่น ในสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย
นับแต่นั้นมา พินอินก็เป็นที่ยอมรับจากสถาบันนานาชาติหลายแห่ง รวมทั้งรัฐบาลสิงคโปร์ หอสมุดรัฐสภาอเมริกัน และสมาคมหอสมุดอเมริกัน โดยถือว่าเป็นระบบการถ่ายถอดเสียงที่เหมาะสมสำหรับภาษาจีนกลาง ครั้นปี พ.ศ. 2522 องค์การมาตรฐานนานาชาติ (ISO) ก็ได้รับเอาพินอินเป็นระบบมาตรฐาน (ISO 7098) ในการถ่ายทอดเสียงภาษาจีนปัจจุบันด้วยอักษรโรมัน (the standard romanization for modern Chinese)
สิ่งสำคัญที่ต้องระลึกไว้ก็คือ พินอินนั้น เป็นการทับศัพท์ด้วยอักษรโรมัน (Romanization) มิใช่การถ่ายถอดเสียงแบบภาษาอังกฤษ (Anglicization) นั่นคือ การกำหนดให้ใช้ตัวอักษรตัวหนึ่ง สำหรับแทนเสียงหนึ่ง ๆ ในภาษาจีนไว้อย่างตายตัว เช่น b และ d ในระบบพินอิน เป็นเสียง "ป" และ "ต" ตามลำดับ ซึ่งแตกต่างจากระบบการออกเสียงส่วนใหญ่ ไม่ว่าอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือภาษาอื่นในยุโรป ขณะที่อักษร j หรือ q นั้นมีเสียงไม่ตรงกับในภาษาอังกฤษเลย กล่าวสั้น ๆ ก็คือ พินอินมุ่งที่จะใช้อักษรโรมัน เพื่อแทนเสียงใดเสียงหนึ่งโดยเฉพาะ เพื่อความสะดวกในการเขียน มิได้ยืมเสียงจากระบบของอักษรโรมันมาใช้ การใช้ระบบนี้นอกจากทำให้ชาวต่างชาติเขียนอ่านภาษาจีนได้สะดวกแล้ว ยังสามารถใช้กับคอมพิวเตอร์ได้สะดวกอย่างยิ่งด้วย
ต่อไปนี้เป็นการถ่ายถอดเสียงภาษาจีน (ที่เขียนด้วยอักษรโรมันในระบบพินอิน) ด้วยอักษรไทย โปรดสังเกตว่า บางหน่วยเสียงในภาษาจีนไม่มีหน่วยเสียงที่ตรงกันในภาษาไทย จึงต้องอนุโลมใช้อักษรที่ใกล้เคียง ในที่นี้จึงมีอักษรไทยบางตัว ที่ต้องใช้แทนหน่วยเสียงในภาษาจีนมากกว่าหนึ่งหน่วยเสียง ทั้งนี้เพื่อเป็น "เกณฑ์อย่างคร่าว ๆ" สำหรับการเขียนคำทับศัพท์ภาษาจีน
Consonants พยัญชนะในภาษาจีนมี 21 ตัวคือ
Zhuyin | Tongyong Pinyin | Hanyu Pinyin | Wade-Giles | IPA | ตัวอย่าง(Zhuyin, Pinyin) | |
---|---|---|---|---|---|---|
เปอ | ㄅ | b | b | p | p | 八 (ㄅㄚ, bā) |
เพอ | ㄆ | p | p | p' | pʰ | 杷 (ㄆㄚˊ, pá) |
เมอ | ㄇ | m | m | m | m | 馬 (ㄇㄚˇ, mǎ) |
เฟอ | ㄈ | f | f | f | 法 (ㄈㄚˇ, fǎ) | |
เตอ | ㄉ | d | d | t | 地 (ㄉㄧˋ, dì) | |
เทอ | ㄊ | t | t | t' | tʰ | 提 (ㄊㄧˊ, tí) |
เนอ | ㄋ | n | n | n | 你 (ㄋㄧˇ, nǐ) | |
เลอ | ㄌ | l | l | l | 利 (ㄌㄧˋ, lì) | |
เกอ | ㄍ | g | g | k | 告 (ㄍㄠˋ, gào) | |
เคอ | ㄎ | k | k | k' | kʰ | 考 (ㄎㄠˇ, kǎo) |
เฮอ | ㄏ | h | h | h | 好 (ㄏㄠˇ, hǎo) | |
จี | ㄐ | j | j | ch | 叫 (ㄐㄧㄠˋ, jiào) | |
ชี | ㄑ | c | q | ch' | 巧 (ㄑㄧㄠˇ, qiǎo) | |
ซี | ㄒ | s | x | hs | 小 (ㄒㄧㄠˇ, xiǎo) | |
จือ | ㄓ | jhih 【jh】 | zhi 【zh】 | chih 【ch】 | ʈʂɚ | 主 (ㄓㄨˇ, zhǔ) |
ชือ | ㄔ | chih 【ch】 | chi 【ch】 | ch'ih 【ch'】 | ʈʂʰɚ | 出 (ㄔㄨ, chū) |
ซือ | ㄕ | shih 【sh】 | shi 【sh】 | shih 【sh】 | ʂɚ | 束 (ㄕㄨˋ, shù) |
ยือ | ㄖ | rih 【r】 | ri 【r】 | jih 【j】 | ʐɚ | 入 (ㄖㄨˋ, rù) |
จือ | ㄗ | zih 【z】 | zi 【z】 | tzû 【ts】 | tsɨ | 在 (ㄗㄞˋ, zài) |
ชือ | ㄘ | cih 【c】 | ci 【c】 | tz'û 【ts'】 | tsʰɨ | 才 (ㄘㄞˊ, cái) |
ซือ | ㄙ | sih 【s】 | si 【s】 | ssû 【s】 | ɤŋ | 塞 (ㄙㄞ, sāi) |
Vowels สระมี 16 ตัวคือ ㄚ ㄛ ㄜ ㄝ ㄞ ㄟ ㄠ ㄡ ㄢ ㄣ ㄤ ㄥ ㄦ 一 ㄨ ㄩ
Zhuyin | Tongyong Pinyin | Hanyu Pinyin | Wade-Giles | IPA | ตัวอย่าง(Zhuyin, Hanyu) | |
---|---|---|---|---|---|---|
อา | ㄚ | a | a | a | a | 大 (ㄉㄚˋ, dà) |
ออ | ㄛ | o | o | o | o | 多 (ㄉㄨㄛ, duō) |
เออ | ㄜ | e | e | e | o/ê | 得 (ㄉㄜˊ, dé) |
เอ | ㄝ | e | ê | eh | 爹 (ㄉㄧㄝ, diē) | |
ไอ | ㄞ | ai | ai | ai | ai | 晒 (ㄕㄞˋ, shài) |
เอย | ㄟ | ei | ei | ei | ei | 誰 (ㄕㄟˊ, shéi) |
เอา | ㄠ | ao | ao | ao | ao | 少 (ㄕㄠˇ, shǎo) |
โอ | ㄡ | ou | ou | ou | ou | 收 (ㄕㄡ, shōu) |
อาน | ㄢ | an | an | an | an | 山 (ㄕㄢ, shān) |
เอิน | ㄣ | en | en | en | ên | 申 (ㄕㄣ, shēn) |
อาง | ㄤ | ang | ang | ang | ang | 上 (ㄕㄤˋ, shàng) |
เอิง | ㄥ | eng | eng | eng | szŭ | 生 (ㄕㄥ, shēng) |
เอ๋อ | ㄦ | er | er | erh | êrh | 而 (ㄦˊ, ér) |
อี | 一 หรือㄧ | yi 【i】 | yi 【i】 | yi 【i】 | i | 逆 (ㄋㄧˋ, nì) |
yin 【in】 | yin 【in】 | yin 【in】 | 音 (ㄧㄣ, yīn) | |||
ying 【ing】 | ying 【ing】 | ying 【ing】 | 英 (ㄧㄥ, yīng) | |||
อู | ㄨ | wu 【u】 | wu 【u】 | wu 【u】 | wu | 努 (ㄋㄨˇ, nǔ) |
wun 【un】 | wen 【un】 | wen 【un】 | 文 (ㄨㄣˊ, wén) | |||
wong 【ong】 | weng 【ong】 | ng 【ung】 | 翁 (ㄨㄥ, wēng) | |||
อวี | ㄩ | yu 【u, yu】 | yu 【u, ü】 | yü 【ü】 | yü | 女 (ㄋㄩˇ, nǚ) |
yun 【un, yun】 | yun 【un】 | yün 【ün】 | 韻 (ㄩㄣˋ, yūn) | |||
yong | yong 【iong】 | yung 【iung】 | 永 (ㄩㄥˇ, yǒng) |
Tones วรรณยุกต์ มีดังนี้ ╴ ˊ ˇ ˋ ˙
Zhuyin | เทียบเสียง วรรณยุกต์ไทย | Pinyin | Tongyong Pinyin | Wade-Giles | Zhuyin | IPA | ตัวอย่าง (ตัวเต็ม/ตัวย่อ) | ||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ╴ | ปกติ | อิน | mā | ma | ma1 | ㄇㄚ | ma˥˥ | 媽/妈 |
2 | ˊ | จัตวา | หยัง | má | maˊ | ma2 | ㄇㄚˊ | ma˧˥ | 麻/麻 |
3 | ˇ | เอก | ชั้ง | mǎ | maˇ | ma3 | ㄇㄚˇ | ma˨˩˦ | 馬/马 |
4 | ˋ | โท | ชี้ | mà | maˋ | ma4 | ㄇㄚˋ | ma˥˩ | 罵/骂 |
5 | ˙ | เสียงสั้น | ˙ma | ma˙ | ma5 | ㄇㄚ˙ |
การผสมเสียงระหว่างสระ
Zhuyin | Pinyin | คำอ่าน | Zhuyin 一﹍ | Pinyin i﹍ | คำอ่าน | Zhuyin ㄨ﹍ | Pinyin u﹍ | คำอ่าน | Zhuyin ㄩ﹍ | Pinyin ű﹍ | คำอ่าน |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ㄚ | a | อา | ﹍一ㄚ | -ia | เอีย | ﹍ㄨㄚ | -ua | อวา | |||
ㄛ | o | ออ | ﹍ㄨㄛ | -uo | อวอ | ||||||
ㄜ | e | เออ | |||||||||
ㄝ | ê | เอ | ﹍一ㄝ | -ie | อีเอ | ﹍ㄩㄝ | -űe | เอวีย | |||
ㄞ | ai | ไอ | ﹍ㄨㄞ | -uai | อวาย | ||||||
ㄟ | ei | เอย | ﹍ㄨㄟ | -ui | อุย | ||||||
ㄠ | ao | เอา | ﹍一ㄠ | -iao | เอียว | ||||||
ㄡ | ou | โอ | ﹍一ㄡ | -iu | อิว | ||||||
ㄢ | an | อาน | ﹍一ㄢ | -ian | เอียน | ﹍ㄨㄢ | -uan | อวน | ﹍ㄩㄢ | -űan | เอวียน |
ㄣ | en | เอิน | ﹍一ㄣ | -in | อิน | ﹍ㄨㄣ | -un | อวุน | ﹍ㄩㄣ | -űn | อวีน |
ㄤ | ang | อาง | ﹍一ㄤ | -iang | เอียง | ﹍ㄨㄤ | -uang | อวง | |||
ㄥ | eng | เอิง | ﹍一ㄥ | -ing | อิง | ﹍ㄨㄥ | -ong | อง | ﹍ㄩㄥ | -iong | อีอง |

ครอบครัว 家庭

คำศัพท์ | พินอิน | คำอ่าน | ความหมาย |
祖父 | zǔfù | จู่ฟู่ | ปู่ |
祖母 | zǔmǔ | จู๋หมู่ | ย่า |
外祖父 | wàizǔfù | ว่ายจู่ฟู่ | ตา |
外祖母 | wàizǔmǔ | ว่ายจู๋หมู่ | ยาย |
爷爷 | yěyě | เหยเหย่ | ปู่ |
奶奶 | nǎināi | หน่ายนาย | ย่า |
外公 | wàigōng | ว่ายกง | ตา |
外婆 | wàipō | ว่ายโพ | ยาย |
父亲 | fùqīn | ปู่ชิน | พ่อ |
母亲 | mǔqīn | หมู่ชิน | แม่ |
爸爸 | bàba | ป้าป่า | พ่อ |
妈妈 | māma | ม๊ามะ | แม่ |
兄弟 | xiōngdì | ซงตี้ | พี่น้อง(ผู้ชาย) |
姐妹 | jiěmèi | เจี่ยเม่ย | พี่น้อง(ผู้หญิง) |
哥哥 | gēge | เก๊อเกอ | พี่ชาย |
姐姐 | jiějie | เจี่ยเจีย | พี่สาว |
弟弟 | dìdi | ตี้ติ | น้องชาย |
妹妹 | mèimei | เหม่ยเมย | น้องสาว |
儿子 | érzi | เอ๋อจื่อ | ลูกชาย |
女儿 | nǚér | หนี่เอ๋อ | ลูกสาว |
孩子 | háizi | ไหจื่อ | ลูก |
男孩 | nánhái | หนานไห | ลูกผู้ชาย |
女孩 | nǚhái | หนี่ไห | ลูกผู้สาว |
岳父 | yuèfu | เย่ฟู่ | พ่อตา |
义父 | yìfu | อี้ฟู่ | พ่อบุญธรรม |
公公 | gōnggōng | กงกง | พ่อปู่ |
父母 | fùmǔ | ฟู่หมู่ | พ่อแม่ |
妻子 | qīzi | ชีจื่อ | ภรรยา |
母亲 | mùqīn | มู่ชิน | มารดา |
义母 | yìmǔ | อี้หมู่ | แม่บุญธรรม |
婆婆 | pópo | โผโพะ | แม่ย่า |
岳母 | yuèmǔ | เยว่หมู่ | แม่ยาย |
祖母 | zǔmǔ | จู๋หมู่ | ย่า |
伯伯 | bóbo | โป๋โปะ | ลุง |
外孙 | wàisūn | ว่ายซุน | หลานชายตา |
外甥 | wàishēng | ว่ายเซิง | หลานชายน้า |
孙子 | sūnzi | ซุนจื่อ | หลานชายปู่ |
侄儿 | zhí ér | จื๋อเอ๋อ | หลานชายตา |
外孙女 | wàisūnnǚ | ว่ายซุนหนี่ | หลานสาวตา |
孙女 | sūnnǚ | ซุนหนี่ | หลานสาวปู่ |
侄女 | zhínǚ | จื๋อหนี่ | หลานสาวอา |
姑丈 | gūzhàng | กูจ้าง | อาเขย,ลุงเขย |
叔叔 | shúshu | สูสุ | อาชาย |
婶母 | shěnmǔ | เสินหมุ่ | อาสะใภ้ |
姑母 | gūmǔ | กูหมู่ | อาหญิง,ป้า |
อาหาร 食品

คำศัพท์ | พินอิน | คำอ่าน | ความหมาย |
早餐 | zǎocān | เจ่าชาน | อาหารมื้อเช้า |
晚餐 | wǎncān | หว่านชาน | อาหารมื้อค่ำ |
午餐 | wǔcān | อู่ชาน | าหารว่างช่วงกลางวัน |
面包 | miàn bāo | เมี่ยนเปา | ขนมปัง |
烤面包 | kǎo miàn bāo | เข่าเมี่ยนเปา | ขนมปังปิ้ง |
热狗 | rè gǒu | เร่อโก่ว | ฮอทด็อก |
三明治 | sān míng zhì | ซาน หมิงจื้อ | แซนด์วิช |
饼干 | bǐng gān | ปิ่งกาน | ขนมปังกรอบ |
沙拉 | shā lā | ซาลา | สลัด |
甜食 | tián shí | เถียนสือ | ของหวาน |
布丁 | bù dīng | ปู้ติง | ขนมพุดดิ้ง |
芥末 | jiè mò | เจี้ย โม่ | มัสตาร์ด |
粥 | zhōu | โจว | ข้าวต้ม โจ๊ก |
半熟鸡蛋 | bàn shú jī dàn | ป้านสูจีต้าน | ไข่ลวก |
面条 | miàn tiáo | เมี่ยนเถียว | ก๋วยเตี๋ยว |
意大利面 | yì dà lì miàn | อี้ต้าลี่เมี่ยน | สปาเกตตี |
香肠 | xiāng cháng | เซียง เฉิง | ไส้กรอก |
自助餐 | zìzhùcān | จื้อ จู้ ชาน | อาหารบุฟเฟต์ |
饺子 | jiǎozi | เจี่ยวจือ | เกี๊ยว |
馒头 | mántóu | หมานโถว | หมั่นโถว |
斋菜 | zhāi cài | จาย ไช่ | อาหารเจ |
开胃菜 | kāi wèi cài | คายเว่ยไช่ | ออร์เดิฟ |
通心粉 | tōng xīn fěn | ทงวินเผิ่น | มะกะโรนี |
熟煎饼 | shú jiān bǐng | สูเจียน ปิ่ง | ขนมแพนเค้ก |
油条 | yóutiáo | โหยวเถียว | ปาท่องโก๋ |
豆浆 | dòujiāng | โต้วเจียง | น้ำเต้าหู้ |
清汤 | qīngtāng. | ชิงทาง | ซุปน้ำใส |
浓汤 | nóng tāng. | หนงทาง | ซุปน้ำข้น |
火腿 | huǒtuǐ. | หั่วทุย | หมูแฮม |
猪排 | zhūpái. | จูไผ | สเต็กหมู |
炒饭 | chǎofàn. | เฉ่าฟ่าน | ข้าวผัด |
สัตว์ 动物

คำศัพท์ | พินอิน | คำอ่าน | ความหมาย |
熊 | Xióng | สง | หมี |
老虎 | Lǎohǔ | เหลาสู่ | เสือ |
狮子 | Shīzi | ซือจื่อ | สิงโต |
犀牛 | Xīniú | ซีหนิว | แรด |
狗 | Gǒu | โก่ว | สุนัข |
猫 | Māo | เมา | แมว |
熊猫 | Xióngmāo | สงเมา | หมีแพนด้า |
大象 | Dà xiàng | ต้าเซี่ยง | ช้าง |
斑马 | Bānmǎ | ปานหม่า | ม้าลาย |
鹿 | Lù | ลู่ | กวาง |
袋鼠 | Dàishǔ | ไต้สู่ | จิงโจ้ |
猴子 | Hóuzi | โหวจื่อ | ลิง |
狐狼 | Hú láng | หูหลาง | สุนัขจิ้งจอก |
河马 | Hémǎ | เหอหม่า | ฮิปโปโปเตมัส |
刺猬 | Cìwei | ชื่อเวย | เม่น |
松鼠 | Sōngshǔ | ซงสู่ | กระรอก |
长颈鹿 | Chángjǐnglù | ฉางจิ่งลู่ | ยีราฟ |
鳄鱼 | Èyú | เอ้อหยีร์ | จระเข้ |
豹子 | Bàozi | เป้าจื่อ | เสือดาว |
貘 | Mò | โม่ | สมเสร็จ |
狼 | Láng | หลาง | สุนัขป่า |
野牛 | Yěniú | เหย่หนิว | วัวกระทิง |
蝙蝠 | Biānfú | เปียนฝุ | ค้างคาว |
无尾熊 | Wú wěi xióng | อู๋เหว่ยสง | หมีโคอะล่า |
大猩猩 | Dà xīngxīng | ต้าซิงซิง | ลิงกอริลา |
骆驼 | Luòtuo | ลั่วทัว | อูฐ |
黑猩猩 | Hēixīngxīng | เฮยซิงซิง | ลิงชิมแปนซี |
牦牛 | Máo niú | เหมาหนิว | จามรี |
北极熊 | Běijíxióng | เป่ยจี๋สง | หมีขั้วโลกเหนือ |
浣熊 | Huànxióng | ฮ่วนสง | แร็กคูน |
猩猩 | Xīngxīng | ซิงซิง | ลิงอุรังอุตัง |
蛇 | Shé | เสอ | งู |
鸡 | Jī | จี | ไก่ |
鼠 | Shǔ | สู่ | หนู |
鸭 | Yā | ยา | เป็ด |
水牛 | Shuǐniú | สุ่ยหนิว | ควาย |
แม่น้ำ河 

ชื่อจีน | พินอิน | คำอ่าน | ชื่อไทย |
湄平河 | Méi pínghé | เหม่ยผิงเหอ | แม่น้ำปิง |
湄公河 | Méigōnghé | เหม่ยกงเหอ | แม่น้ำโขง |
黄河 | Huánghé | หวงเหอ | แม่น้ำเหลือง |
长江 | Chángjiāng | ฉางเจียง | แม่น้ำแยงซีเกียง |
伊洛瓦底江 | Yīluòwǎdǐjiāng | อีลั่วหวาตี่เจียง | แม่น้ําอิระวดี |
尼罗河 | Níluóhé | นี่หลัวเหอ | แม่น้ำไนล์ |
亚马逊河 | Yà mǎ xùn hé | ย่าหม่าซุ่นเหอ | แม่น้ำแอมะซอน |
刚果河 | Gāngguǒ hé | กางกั่วเหอ | แม่น้ำคองโก |
恒河 | Héng hé | เหิงเหอ | แม่น้ําคงคา |
阿穆尔河 | Āmù'ěr hé | อามู่เอ่อเหอ | แม่น้ำอามูร์ |
莱茵河 | Láiyīn hé | ไหลอินเหอ | แม่น้ำไรน์ |
墨累河 | Mò lèi hé | โม่เลี่ยเหอ | แม่น้ำเมอร์เรย์ |
巴拉圭河 | Bālāguī hé | ปาลากุยเหอ | แม่น้ำปารากวัย |
格兰德河 | Gé lán dé hé | เก๋อหลานเต่อเหอ | แม่น้ำริโอแกรนด์ |
วิชาการ 学术
![]() | |||
คำศัพท์ | พินอิน | คำอ่าน | ความหมาย |
科目 | kēmù | เคอมู่ | วิชา |
医学 | yīxué | อีเสีย | แพทย์ศาสตร์ |
物理学 | wùlǐxué | อู้หลี่เสีย | ฟิสิกส์ |
语言学 | yǔyánxué | ยวี่เหยียนเสีย | ภาษาศาสตร์ |
哲学 | zhéxué | เจ๋อเสีย | ปรัชญา |
历史 | lìshǐ | ลี่สื่อ | ประวัติศาสตร์ |
法学 | fǎxué | ฝ่าเสีย | นิติศาสตร์ |
生物学 | shēngwùxué | เซิงอู้เสีย | ชีววิทยา |
化学 | huàxué | ฮว่าเสีย | เคมี |
数学 | shùxué | ซุ่เสีย | คณิตศาสตร์ |
经济学 | jīngjìxué | จิ้งจื่อ | เศรษศาสตร์ |
教育学 | jiàoyùxué | เจี้ยวยวี่เสีย | ศึกษาศาตร์ |
人文学科 | rénwénkēxué | เหรินเหวินเคอเสีย | ศิลปศาสตร์ |
工程学 | gōngchēngxué | กงเฉิงชือ | วิศวกรรมศาสตร์ |
文学 | wénxué | เหวินเสีย | วรรณคดี |
政治学 | zhèngzhìxué | เจิ้งจื่อเสีย | รัฐศาตร์ |
地理学 | dìlǐxué | ตี้หลี่เสีย | ภูมิศาสตร์ |
药学 | yàoxué | เย่าเสีย | เภสัชศาสตร์ |
营养 | yíngyáng | หยิงหยาง | โภชนาการ |
การแสดงความเห็นด้วยในภาษาจีน

1.好吧
Hǎo ba
ห่าวปา
โอเค

1.好吧
Hǎo ba
ห่าวปา
โอเค
2.行
Xíng
สิง
ได้
3.可以
Kěyǐ
เขออี่
ได้
4.对
Duì
ตุ้ย
ใช่,ถูกต้อง
5.没错
Méicuò
เหมยชั่ว
ไม่เลว
6.好主意
Hǎo zhǔyì
หาวจู่อี้
ความคิดดี
7.有道理
Yǒu dàolǐ
โหย่วเต้าหลี่
มีเหตุผล
8.我同意
Wǒ tóngyì
หว่อทงอี้
ฉันเห็นด้วย
9.听你的
Tīng nǐ de
ทิงหนี่เตอ
แล้วแต่คุณ
10.我没意见
Wǒ méi yìjiàn
หว่อเหมยอี้เจี้ยน
ฉันไม่มีความคิดเห็น
11.你说对了
Nǐ shuō duìle
หนี่ ชัว ตุ้ย เลอ
คุณพูดถูกแล้ว
12.我也是这样想的
Wǒ yěshì zhèyàng xiǎng de
หว่อ เหย่ ซื่อ เจ้อ ย่าง เสี่ยงเตอ
ฉันก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน
Xíng
สิง
ได้
3.可以
Kěyǐ
เขออี่
ได้
4.对
Duì
ตุ้ย
ใช่,ถูกต้อง
5.没错
Méicuò
เหมยชั่ว
ไม่เลว
6.好主意
Hǎo zhǔyì
หาวจู่อี้
ความคิดดี
7.有道理
Yǒu dàolǐ
โหย่วเต้าหลี่
มีเหตุผล
8.我同意
Wǒ tóngyì
หว่อทงอี้
ฉันเห็นด้วย
9.听你的
Tīng nǐ de
ทิงหนี่เตอ
แล้วแต่คุณ
10.我没意见
Wǒ méi yìjiàn
หว่อเหมยอี้เจี้ยน
ฉันไม่มีความคิดเห็น
11.你说对了
Nǐ shuō duìle
หนี่ ชัว ตุ้ย เลอ
คุณพูดถูกแล้ว
12.我也是这样想的
Wǒ yěshì zhèyàng xiǎng de
หว่อ เหย่ ซื่อ เจ้อ ย่าง เสี่ยงเตอ
ฉันก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน
การทักทายในภาษาจีน

1.你好
Nǐ hǎo
หนี่ห่าว
สวัสดี
2.您好
Nín hǎo
หนินห่าว
สวัสดี
3.早安
Zǎo ān
เจ่าอาน
อรุณสวัสดิ์
4.早上好
Zǎoshang hǎo
เจ่าซ่างห่าว
สวัสดีตอนเช้า
5.晚安
Wǎn'ān
หวานอาน
ราตรีสวัสดิ์
6.晚上好
Wǎnshàng hǎo
หว่านซ่างห่าว
สวัสดีตอนเย็น
7.老师好
Lǎoshī hǎo
เหล่าซือห่าว
สวัสดีคุณครู/อาจารย์
8.好久不见,你怎么样?
Hǎojiǔ bùjiàn, nǐ zěnme yàng?
ห่าวจิ่วปู๋เจี้ยน หนี๋เจิ่นเมอย่าง
ไม่ได้เจอกันนาน เป็นไงบ้าง
9.最近忙吗?
Zuìjìn máng ma?
จุ้ยจิ้น หมางมะ
ช่วงนี้ยุ่งไหม
10.你身体好吗?
Nǐ shēntǐ hǎo ma?
หนี่เซินถี่ห่าวมะ
คุณสุขภาพเป็นไงบ้าง
11.我的身体很好。
Wǒ de shēntǐ hěn hǎo.
หว่อเตอเซินถี่เหิ่นห่าว
สุขภาพฉันดี
12.你父母身体好吗?
Nǐ fùmǔ shēntǐ hǎo ma?
หนี่ ฟู่หมู่ เซินถี่ ห่าวมะ
พ่อแม่คุณสุขภาพเป็นไงบ้าง
13.带我向他们问好。
Dài wǒ xiàng tāmen wènhǎo.
ไต้หว่อเซี่ยงทาเมิน เวิ่นห่าว
ฝากสวัสดีพ่อแม่คุณด้วย
14.你好吗?
Nǐ hǎo ma?
หนีห่าวมะ
คุณสบายดีไหม
15.我很好,你呢
Wǒ hěn hǎo, nǐ ne
หว่อ เหินห่าว หนี่เนอ
ฉันสบายดี คุณล่ะ
16.我也很好。
Wǒ yě hěn hǎo.
หว่อ เหย่ เหิน ห่าว
ฉันก็สบายดี

1.你好
Nǐ hǎo
หนี่ห่าว
สวัสดี
2.您好
Nín hǎo
หนินห่าว
สวัสดี
3.早安
Zǎo ān
เจ่าอาน
อรุณสวัสดิ์
4.早上好
Zǎoshang hǎo
เจ่าซ่างห่าว
สวัสดีตอนเช้า
5.晚安
Wǎn'ān
หวานอาน
ราตรีสวัสดิ์
6.晚上好
Wǎnshàng hǎo
หว่านซ่างห่าว
สวัสดีตอนเย็น
7.老师好
Lǎoshī hǎo
เหล่าซือห่าว
สวัสดีคุณครู/อาจารย์
8.好久不见,你怎么样?
Hǎojiǔ bùjiàn, nǐ zěnme yàng?
ห่าวจิ่วปู๋เจี้ยน หนี๋เจิ่นเมอย่าง
ไม่ได้เจอกันนาน เป็นไงบ้าง
9.最近忙吗?
Zuìjìn máng ma?
จุ้ยจิ้น หมางมะ
ช่วงนี้ยุ่งไหม
10.你身体好吗?
Nǐ shēntǐ hǎo ma?
หนี่เซินถี่ห่าวมะ
คุณสุขภาพเป็นไงบ้าง
11.我的身体很好。
Wǒ de shēntǐ hěn hǎo.
หว่อเตอเซินถี่เหิ่นห่าว
สุขภาพฉันดี
12.你父母身体好吗?
Nǐ fùmǔ shēntǐ hǎo ma?
หนี่ ฟู่หมู่ เซินถี่ ห่าวมะ
พ่อแม่คุณสุขภาพเป็นไงบ้าง
13.带我向他们问好。
Dài wǒ xiàng tāmen wènhǎo.
ไต้หว่อเซี่ยงทาเมิน เวิ่นห่าว
ฝากสวัสดีพ่อแม่คุณด้วย
14.你好吗?
Nǐ hǎo ma?
หนีห่าวมะ
คุณสบายดีไหม
15.我很好,你呢
Wǒ hěn hǎo, nǐ ne
หว่อ เหินห่าว หนี่เนอ
ฉันสบายดี คุณล่ะ
16.我也很好。
Wǒ yě hěn hǎo.
หว่อ เหย่ เหิน ห่าว
ฉันก็สบายดี
การกล่าวลาในภาษาจีน

1.再见
Zàijiàn
จ้าย เจี้ยน
พบกันใหม่
2.明天见.
Míngtiān jiàn.
หมิงเทียนเจี้ยน
พรุ่งนี้เจอกัน
3.回头见.
Huítóu jiàn.
หุยโถวเจี้ยน
แล้วพบกันใหม่
4.有空长联系.
Yǒu kòng cháng liánxì.
โหย่วโค่งฉางเหลียนซี่
มีเวลาเจอกันใหม่นะ
5.对不起,我先走了.
Duìbùqǐ, wǒ xiān zǒuliǎo.
ตุ้ยปู้ฉี่ หว่อเซียนโจ่วเลอ
ขอโทษนะ ฉันต้องไปก่อนแล้ว
6.你多保重.
Nǐ duō bǎozhòng.
หนี่ ตัว ป่าว จ้ง
ดูแลตัวเองให้ดีๆนะ
7.一路平安
Yīlù píng'ān
อี๋ลู่ผิงอาน
เดินทางโดยสวัสดิภาพ
8.一路顺风
Yīlù shùnfēng
อี๋ลู่ซุ่นเฟิง
เดินทางโดยสวัสดิภาพ
9.到了以后,我给你打电话。
Dàole yǐhòu, wǒ gěi nǐ dǎ diànhuà.
เต้าเลออี่โฮ่ว หวอเก่ยหนี่ต่าเตี้ยนฮว่า
หลังจากไปถึงแล้ว ฉันจะโทรศัพท์หาคุณ

1.再见
Zàijiàn
จ้าย เจี้ยน
พบกันใหม่
2.明天见.
Míngtiān jiàn.
หมิงเทียนเจี้ยน
พรุ่งนี้เจอกัน
3.回头见.
Huítóu jiàn.
หุยโถวเจี้ยน
แล้วพบกันใหม่
4.有空长联系.
Yǒu kòng cháng liánxì.
โหย่วโค่งฉางเหลียนซี่
มีเวลาเจอกันใหม่นะ
5.对不起,我先走了.
Duìbùqǐ, wǒ xiān zǒuliǎo.
ตุ้ยปู้ฉี่ หว่อเซียนโจ่วเลอ
ขอโทษนะ ฉันต้องไปก่อนแล้ว
6.你多保重.
Nǐ duō bǎozhòng.
หนี่ ตัว ป่าว จ้ง
ดูแลตัวเองให้ดีๆนะ
7.一路平安
Yīlù píng'ān
อี๋ลู่ผิงอาน
เดินทางโดยสวัสดิภาพ
8.一路顺风
Yīlù shùnfēng
อี๋ลู่ซุ่นเฟิง
เดินทางโดยสวัสดิภาพ
9.到了以后,我给你打电话。
Dàole yǐhòu, wǒ gěi nǐ dǎ diànhuà.
เต้าเลออี่โฮ่ว หวอเก่ยหนี่ต่าเตี้ยนฮว่า
หลังจากไปถึงแล้ว ฉันจะโทรศัพท์หาคุณ
การขอบคุณ

1.谢谢
Xièxiè
เซี่ยเซี่ย
ขอบคุณ
2.多谢
Duōxiè
ตัวเซี่ย
ขอบคุณมาก
3.太感谢你
Tài gǎnxiè nǐle
ไท่ ก่าน เซี่ย หนี่
ขอบพระคุณมากๆ
4.谢谢你的帮助
Xièxiè nǐ de bāngzhù
เซี่ยเซี่ย หนี่ เตอ ปาง จู้
ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือ
5.麻烦您了
Máfan nínle
หมา ฝ่าน หนิน เลอ
รบหวนคุณแล้ว
6.辛苦你了
Xīnkǔ nǐle
ซิน ขุ่ หนีเลอ
ลำบากคุณแล้ว
7.我很感谢
Wǒ hěn gǎnxiè
หว่อ เหิ่น ก่าน เซี่ย
ฉันขอขอบคุณจริงๆ
การตอบรับ
1.不用谢
Bùyòng xiè
ปู๋โย่งเซี่ย
ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก
2.不客气
Bù kèqì
ปู๋เค่อชี่
ไม่ต้องเกรงใจ
3.别客气
Bié kèqì
เปี๋ยเค่อชี่
ไม่ต้องเกรงใจ
4.没关系
Méiguānxì
เหมยกวานซี
ไม่เป็นไร
5.没什么
Méishénme
เหมย เสิน เมอ
ไม่เป็นไร
6.你太客气了
Nǐ tài kèqìle
หนี่ ไท่ เค่อ ฉี่ เลอ
คุณเกรงใจมากไปแล้ว

1.谢谢
Xièxiè
เซี่ยเซี่ย
ขอบคุณ
2.多谢
Duōxiè
ตัวเซี่ย
ขอบคุณมาก
3.太感谢你
Tài gǎnxiè nǐle
ไท่ ก่าน เซี่ย หนี่
ขอบพระคุณมากๆ
4.谢谢你的帮助
Xièxiè nǐ de bāngzhù
เซี่ยเซี่ย หนี่ เตอ ปาง จู้
ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือ
5.麻烦您了
Máfan nínle
หมา ฝ่าน หนิน เลอ
รบหวนคุณแล้ว
6.辛苦你了
Xīnkǔ nǐle
ซิน ขุ่ หนีเลอ
ลำบากคุณแล้ว
7.我很感谢
Wǒ hěn gǎnxiè
หว่อ เหิ่น ก่าน เซี่ย
ฉันขอขอบคุณจริงๆ
การตอบรับ

1.不用谢
Bùyòng xiè
ปู๋โย่งเซี่ย
ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก
2.不客气
Bù kèqì
ปู๋เค่อชี่
ไม่ต้องเกรงใจ
3.别客气
Bié kèqì
เปี๋ยเค่อชี่
ไม่ต้องเกรงใจ
4.没关系
Méiguānxì
เหมยกวานซี
ไม่เป็นไร
5.没什么
Méishénme
เหมย เสิน เมอ
ไม่เป็นไร
6.你太客气了
Nǐ tài kèqìle
หนี่ ไท่ เค่อ ฉี่ เลอ
คุณเกรงใจมากไปแล้ว
การขอโทษ

1.对不起(โดยทั่วไปจะใช้ตัวนี้)
Duìbùqǐ
ตุ้ยปู้ฉี่
ขอโทษค่ะ/ครับ
2.请原谅
Qǐng yuánliàng
ฉิ่ง เหยียนเลี่ยง
ประทานโทษค่ะ/ครับ
3.不好意思
Bù hǎoyìsi
ปู้ห่าวอี้ซือ
ขอโทษค่ะ/ครับ
4.真不好意思
Zhēn bù hǎoyìsi
เจิน ปู้ ห่าว อี้ ซือ
ต้องขอโทษจริงๆ
5.打扰了
Dǎrǎole
ต่า หร่าว เลอ
ต้องรบกวนแล้ว
6. 真抱歉(สุภาพมาก)
Zhēn bàoqiàn
เจิน ป้าว เชี่ยน
ขออภัยค่ะ/ครับ
การตอบรับ
1.没关系(โดยทั่วไปจะใช้ตัวนี้)
Méiguānxì
เหมย กวาน ซี
ไม่เป็นไร
2.不要紧
Bùyàojǐn
ปู๋ เย่า จิ่น
ไม่เป็นไร
3.别介意
Bié jièyì
เปี๋ย เจี้ย อี้
ช่างเถอะ
4.没事儿
Méishì er
เหมย ซื่อร์
ไม่เป็นอะไรหรอก
5.算了
Suànle
ซ่วน เลอ
ลืมมันเถิด
6.这不是你的错
Zhè bùshì nǐ de cuò
เจ้อ ปู้ ซื่อ หนี่ เตอ ชั่ว
ไม่ใช่ความผิดของคุณ

1.对不起(โดยทั่วไปจะใช้ตัวนี้)
Duìbùqǐ
ตุ้ยปู้ฉี่
ขอโทษค่ะ/ครับ
2.请原谅
Qǐng yuánliàng
ฉิ่ง เหยียนเลี่ยง
ประทานโทษค่ะ/ครับ
3.不好意思
Bù hǎoyìsi
ปู้ห่าวอี้ซือ
ขอโทษค่ะ/ครับ
4.真不好意思
Zhēn bù hǎoyìsi
เจิน ปู้ ห่าว อี้ ซือ
ต้องขอโทษจริงๆ
5.打扰了
Dǎrǎole
ต่า หร่าว เลอ
ต้องรบกวนแล้ว
6. 真抱歉(สุภาพมาก)
Zhēn bàoqiàn
เจิน ป้าว เชี่ยน
ขออภัยค่ะ/ครับ
การตอบรับ

1.没关系(โดยทั่วไปจะใช้ตัวนี้)
Méiguānxì
เหมย กวาน ซี
ไม่เป็นไร
2.不要紧
Bùyàojǐn
ปู๋ เย่า จิ่น
ไม่เป็นไร
3.别介意
Bié jièyì
เปี๋ย เจี้ย อี้
ช่างเถอะ
4.没事儿
Méishì er
เหมย ซื่อร์
ไม่เป็นอะไรหรอก
5.算了
Suànle
ซ่วน เลอ
ลืมมันเถิด
6.这不是你的错
Zhè bùshì nǐ de cuò
เจ้อ ปู้ ซื่อ หนี่ เตอ ชั่ว
ไม่ใช่ความผิดของคุณ
ตัวอย่างบทสนทนา 

ยินดีที่รู้จัก

A:你好 我是王美丽
Nǐ hǎo wǒ shì wáng měilì
หนีห่าว หว่อซื่อหวังเหม่ยลี่
สวัสดี ฉันคือหวังเหม่ยลี่
B:你好 我是李天阳
Nǐ hǎo wǒ shì litiānyáng
หนีห่าว หว่อซื่อหลี่เทียนหยาง
สวัสดี ผมคือหลี่เทียนหยาง
A:我很高兴认识你
Wǒ hěn gāoxìng rènshi nǐ
หวอเหิ่นเกาซิ่งเริ่นซือหนี่
ยินดีที่ได้รู้จักคุณ
B:我也很高兴认识你
Wǒ yě hěn gāoxìng rènshi nǐ
หวอเหยเหิ่นเกาซิ่งเริ่นซือหนี่
ผมก็ยินดีที่ได้รู้จักคุณเช่นกัน
คำศัพท์น่ารู้
高兴 gāoxìng ยินดี,ดีใจ
认识 rènshi รู้จัก
คุณทำงานอะไร

A:你做什么工作?
Nǐ zuò shén me gōng zuò
หนี่ จั้ว เสิน เมอ กง จั้ว
คุณทำงานอะไร
B:我在一家电脑公司工作。
wǒ zài yì jiā Diànnǎogōng sī gōng zuò
หว่อ จ้าย อี้ เจีย เตี้ยน เหน่า กง ซือ กง จั้ว
ฉันทำงานที่บริษัทคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง
A:你在这家公司工作多长时间了?
Nǐzài zhè jiā gōng sī gōng zuò duō cháng shí jiān le
หนี่ จ้าย เจ้อ เจีย กงซือ กงจั้ว ตัวฉาง สือเจียน เลอ
คุณทำงานที่บริษัทนี้นานเท่าไหร่แล้ว
B:我在这家公司工作3年了。
Wǒ zài zhè jiā gōng sī gōng zuò 3 nián le
หว่อ จ้าย เจ้อ เจีย กงซือ กงจั้ว 3 เหนียนเลอ
ฉันทำงานที่บริษัทนี้ได้3ปีแล้ว
>>คำศัพท์น่ารู้
工作 gōng zuò งาน,ทำงาน
公司 gōng sī บริษัท
电脑 Diànnǎo คอมพิวเตอร์

A:你做什么工作?
Nǐ zuò shén me gōng zuò
หนี่ จั้ว เสิน เมอ กง จั้ว
คุณทำงานอะไร
B:我在一家电脑公司工作。
wǒ zài yì jiā Diànnǎogōng sī gōng zuò
หว่อ จ้าย อี้ เจีย เตี้ยน เหน่า กง ซือ กง จั้ว
ฉันทำงานที่บริษัทคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง
A:你在这家公司工作多长时间了?
Nǐzài zhè jiā gōng sī gōng zuò duō cháng shí jiān le
หนี่ จ้าย เจ้อ เจีย กงซือ กงจั้ว ตัวฉาง สือเจียน เลอ
คุณทำงานที่บริษัทนี้นานเท่าไหร่แล้ว
B:我在这家公司工作3年了。
Wǒ zài zhè jiā gōng sī gōng zuò 3 nián le
หว่อ จ้าย เจ้อ เจีย กงซือ กงจั้ว 3 เหนียนเลอ
ฉันทำงานที่บริษัทนี้ได้3ปีแล้ว
>>คำศัพท์น่ารู้
工作 gōng zuò งาน,ทำงาน
公司 gōng sī บริษัท
电脑 Diànnǎo คอมพิวเตอร์
สบายดีไหม

A:你好
Nǐhǎo
หนีห่าว
สวัสดี
B:你好 ,你好吗
Nǐhǎo nǐhǎoma
หนีห่าว หนี ห่าว มา
สวัสดี สบายดีไหม
A:我很好,你呢
Wǒhěnhǎo nǐne
หวอ เหิน ห่าว หนี่เนอ
ฉันสบายดี คุณล่ะ
B:我也很好
Wǒyěhěnhǎo
หวอ เหย่ เหิน ห่าว
ฉันก็สบายดี
คุณจะไปไหน
A:你到哪里去?
Nǐ dào nǎlǐ qù?
หนี่ เต้า หนา หลี่ ชู่ร์
คุณจะไปที่ไหน
B:我到市场去。
Wǒ dào shìchǎng qù
หว่อ เต้า ซื่อ ฉ่าง ชูร์
ฉันจะไปตลาด
A:你去做什么?
Nǐ qù zuò shénme?
หนี่ ชูร์ จั้ว เสิน เมอ
คุณไปทำอะไร
B:我去买东西。
Wǒ qù mǎi dōngxi.
หว่อ ชู่ร์ หม่าย ตง ซิ
ฉันไปซื้อของ
A:你跟谁去?
Nǐ gēn shuí qù?
หนี่ เกิน เสย ชูร์
คุณไปกับใคร
B:我一个人去。
Wǒ yīgè rén qù
หว่อ อี๋ เก้อ เหริน ชู่ร์
ฉันไปคนเดียว
คำศัพท์น่ารู้
东西 dōngxi ของ,สิ่งของ
市场 shìchǎng ตลาด
哪里 nǎlǐ ที่ไหน
买 mǎi ซื้อ

A:你到哪里去?
Nǐ dào nǎlǐ qù?
หนี่ เต้า หนา หลี่ ชู่ร์
คุณจะไปที่ไหน
B:我到市场去。
Wǒ dào shìchǎng qù
หว่อ เต้า ซื่อ ฉ่าง ชูร์
ฉันจะไปตลาด
A:你去做什么?
Nǐ qù zuò shénme?
หนี่ ชูร์ จั้ว เสิน เมอ
คุณไปทำอะไร
B:我去买东西。
Wǒ qù mǎi dōngxi.
หว่อ ชู่ร์ หม่าย ตง ซิ
ฉันไปซื้อของ
A:你跟谁去?
Nǐ gēn shuí qù?
หนี่ เกิน เสย ชูร์
คุณไปกับใคร
B:我一个人去。
Wǒ yīgè rén qù
หว่อ อี๋ เก้อ เหริน ชู่ร์
ฉันไปคนเดียว
คำศัพท์น่ารู้
东西 dōngxi ของ,สิ่งของ
市场 shìchǎng ตลาด
哪里 nǎlǐ ที่ไหน
买 mǎi ซื้อ
กี่โมงแล้ว
A:现在几点了
Xiànzài jǐ diǎnle
เซี่ยน จ้าย จี่ เตี่ยน เลอ
ตอนนี้กี่โมงแล้ว
B:十点半了
Shí diǎn bànle
สือ เตี่ยน ป้าน เลอ
สิบโมงครึ่งแล้ว
A:十点半了 他怎么还不来
Shí diǎn bànle tā zěnme hái bù lái
สือ เตี่ยน ป้าน เลอ ทา เจิ่น เมอ ไห ปู้ ไหล
สิบโมงครึ่งแล้ว ทำไมเขายังไม่มา
B:别着急,再等一会儿吧
Bié zhāojí, zài děng yīhuǐ'er ba
เปี๋ยเจ๋าจี๋ จ้าย เติ่ง อี๋ ฮุ่ยร์ ปา
ไม่ต้องรีบร้อน รอสักครู่เถอะ

A:现在几点了
Xiànzài jǐ diǎnle
เซี่ยน จ้าย จี่ เตี่ยน เลอ
ตอนนี้กี่โมงแล้ว
B:十点半了
Shí diǎn bànle
สือ เตี่ยน ป้าน เลอ
สิบโมงครึ่งแล้ว
A:十点半了 他怎么还不来
Shí diǎn bànle tā zěnme hái bù lái
สือ เตี่ยน ป้าน เลอ ทา เจิ่น เมอ ไห ปู้ ไหล
สิบโมงครึ่งแล้ว ทำไมเขายังไม่มา
B:别着急,再等一会儿吧
Bié zhāojí, zài děng yīhuǐ'er ba
เปี๋ยเจ๋าจี๋ จ้าย เติ่ง อี๋ ฮุ่ยร์ ปา
ไม่ต้องรีบร้อน รอสักครู่เถอะ
คุณเรียนที่ไหน 你在哪儿学习? 

A:你学习什么?
nĭ xuéxí shénme?
หนี่ เสีย สี เสินเมอ
หนี่ เสีย สี เสินเมอ
เธอเรียนอะไร
B:我学习泰语。
wŏ xuéxí Tài yǔ.
หว่อ เสีย สี ไท่ ยี๋ร์
หว่อ เสีย สี ไท่ ยี๋ร์
ฉันเรียนภาษาไทย
A:你在哪儿学习?
nĭ zài năr xuéxí?
หนี่ จ้าย หน่า เสีย สี
หนี่ จ้าย หน่า เสีย สี
เธอเรียนอยู่ที่ไหน
B:我在清迈大学学习。
Wǒ zài qīng mài dàxué xuéxí.
หว่อ จ้าย ชิง ม่าย ต้าเสีย เสีย สี
หว่อ จ้าย ชิง ม่าย ต้าเสีย เสีย สี
ฉันเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
A:你觉得泰语难吗?
nĭ juéde Tài yǔ nán ma?
หนี่ เจี๋ย เต๋อ ไท่ ยี๋ร์ หนาน มะ
หนี่ เจี๋ย เต๋อ ไท่ ยี๋ร์ หนาน มะ
เธอรู้สึกว่าภาษาไทยยากมั้ย
B: 我觉得泰语很容易
Wǒ juéde tài yǔ hěn róngyì.
หว่อ เจี๋ย เต๋อ ไท่ ยี๋ เหิ่น ร๋งอี้
หว่อ เจี๋ย เต๋อ ไท่ ยี๋ เหิ่น ร๋งอี้
ฉันรู้สึกว่าภาษาไทยง่ายมาก
ฉันเป็นคนไทย 我是泰国人 

A:你是中国人吗?
Nǐ shì zhōngguó rén ma?
หนี่ซื่อจงกั๋วเหรินมะ
คุณเป็นคนจีนใช่ไหม
B:不是,我是泰国人.
Bùshì, wǒ shì tàiguó rén
ปู๋ซื่อ หว่อซื่อไท่กั๋วเหริย
ไม่ใช่ค่ะ ฉันเป็นคนไทย
A:那 为什么你的中文很好?
Nà wèishéme nǐ de zhōngwén hěn hǎo
น่า เว่ยเสินเมอ หนี่เตอ จงเหวิน เหินห่าว
แล้วทำไมภาษาจีนของคุณดีมาก
B:噢,我以前在中国学中文三年.
wǒ yǐqián zài zhōngguó xué zhōngwén sān nián
หว่อ อี่เฉียน จ้ายจงกั๋ว เสีย จงเหวิน ซานเหนียน
อ๋อ ก่อนหน้านี้ฉันเรียนภาษาจีนที่ประเทศจีนได้สามปีน่ะ
คำศัพท์น่ารู้
中文 zhngwén ภาษาจีน
中国 Zhōngguó ประเทศจีน
泰国人 Tàiguó rén คนไทย
อ้างอิง
สามารถศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ http://jeenmix.com/